‘ยัดยาบ้าในรูทวาร’ ระบาดหนักที่หนองบัวลำภู ตร.ลั่นอย่าคิดว่ารอด
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ต.ท.ทวนทอง พุทธเสน รอง ผกก.สส. สภ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เปิดเผยถึงคดี จับผู้ต้องหานำยาบ้ายัดเข้าไปในรูทวารหนักนั้นว่า ตอนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.นากลาง ได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน คือ ชื่อ นายสุพจน์ นามไพร อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 7 ต.สำราญ อ.เมืองยโสธร และนายประยง สันวัง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ซ.ประชาราษฎร์ 26 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี ซึ่งเป็นลุงกับหลาน ให้กับ พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนและส่งฟ้องศาลต่อไปแล้ว ซึ่งคดีในลักษณะเช่นนี้ ใน สถานีตำรวจอำเภอนากลาง เท่าที่ทราบมายังไม่เคยพบเลย ถือว่าเป็นคดีแรก แต่ที่อื่นมักจะพบการขนส่งแบบนี้ ตามพื้นที่รอยต่อของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งผู้ค้ายาบ้ามักจะคิดว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยเจ้าหน้าที่ตรวจจับยาก แต่ก็อยากจะฝากสำหรับผู้ที่คิดว่าจะทำแบบนี้ รับรองไปไม่รอดแน่
ช่วงนี้พื้นที่อำเภอนากลางหรือทั่วประเทศก็ว่าได้ สถานการณ์ของยาเสพติดนั้นถือว่ามีการระบาดมาก เพราะมีคนใช้แรงงานมากและในช่วงนี้เมื่อมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ก็ทำให้แรงงานส่วนหนึ่งกลับมาอยู่บ้าน ก็มีบางส่วนที่ใช้โอกาสช่วงนี้ อีกทั้งราคายาบ้าในปัจจุบันก็ถูกลงมาก สำหรับรายเมื่อวานนี้ที่จับได้ ซื้อมาในราคาเม็ดละ 15 บาท มาขาย 50 บาท จึงให้เกิดแรงจูงใจ แต่ทางตำรวจเราทั้งผู้บังคับบัญชา ทาง พ.ต.อ.วิหาร แสงมุกดา ผกก.สภ.นากลาง และพล.ต.ต.สมประสงค์ พิมพิลา ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่เราต้องยุติให้ได้
นอกจากนั้น รอง ผกก.สส.สภ.นากลาง กล่าวว่า ทุกวันนี้การแพร่ระบาดมีไปถึงลูกหลานเรา ด้วยความที่คนไม่รับผิดชอบต่อสังคม อย่างเมื่อวานเฉลี่ย ซื้อมาเม็ดละ 15 บาท มาขาย 50 บาท ตัวเองได้เงินแต่ทำร้ายสังคม ทำร้ายลูกหลานของเรา ก็อยากจะฝากไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองอย่าหากินจนเพลินจนลืมลูกหลานของเรา อย่าลืมดูแลครอบครัวถ้ามียาเสพติดเข้าไปจะทำให้ดูแลครอบครัวยากยิ่งขึ้น ช่วงนี้การแพร่ระบาดโควิดอย่างเดียวก็ลำบากอยู่แล้ว ต้องเข้ามาช่วยกันป้องและแจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
ส่วนที่หมู่บ้าน บ้านโนนศิลาเหนือ หมู่ที่ 14 บ้านโนนศิลาเหนือ ตำบลโนนเมือง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู บริเวณพื้นที่ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหายาบ้ากับรถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง ทะเบียน มข.7859 กรุงเทพมหานคร ได้นั้น พื้นที่บริเวณหมู่บ้าน ชาวบ้านส่วนมากจะทำไร่อ้อย ยุ่งอยู่กับการทำมาหากิน ไม่ค่อยได้มีเวลาดูแลลูกหลาน โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนวัยรุ่นในหมู่บ้านมักจะมีการขับขี่รถเสียงดังเข้าออกกันเป็นประจำ ซึ่ง นางหลอด (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี เปิดเผยว่าในช่วงเวลากลางคืนจะมีวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์เสียงดัง รบกวนชาวบ้าน มีเสียงหมาเห่าตลอด แต่ชาวบ้านส่วนมากจะอยู่กันไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว ก็อยากจะฝากให้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจสอบดูบ้าง
