พศ.เผยตั้งโรงทานช่วยเหลือปชช.ทั่วประเทศ เล็งโรงทานเคลื่อนที่ส่งอาหารเข้าชุมชน

ผอ.พศ.เผยจัดตั้งโรงทานช่วยเหลือปชช.แล้ว 914 ศูนย์ครอบคลุม 77 จว. ระบบโรงทานมีจุดคัดกรองเคร่งครัด ผู้รับต้องใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง 1.5-2 เมตร ระบุ จะมีโรงทานเคลื่อนที่ จัดส่งอาหารแบบเดลิเวอรีเข้าชุมชนด้วย

วันที่ 13 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แถลงชี้แจงรายละเอียดและภาพรวมการจัดตั้งโรงทาน ว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นสำนักงานฯที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลและสนองงานคณะสงฆ์ ในช่วงสถานการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คณะสงฆ์ไทยโดยเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาลงมาให้ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากโรคระบาดโดยจัดตั้งโรงทานขึ้นมาโดยให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้ประสานงานกับวัดทั่วราชอาณาจักรซึ่งจะต้องเป็นวัดที่มีศักยภาพเพียงพอ กำหนดแนวทางประสานงานความร่วมมือคำนึงถึงความพร้อมของแต่ละวัดเป็นปัจจัยสำคัญร่วมกับการสนับสนุนจากภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนในชุมชนนั้นๆ และให้ปฏิบัติตามคำสั่งมาตรการและคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด ปัจจุบันการจัดตั้งโรงทาน ดำเนินการจัดตั้งแล้วทั้งหมด 77 จังหวัดรวมกรุงเทพมหานคร  914 ศูนย์ ซึ่งแต่ละโรงทานจะมีประชาชนที่ได้รับความช่วยเหลือในแต่ละวัน 274,000 คน

นายณรงค์ กล่าวต่อว่า สำหรับโรงทานที่อยู่ภายในวัดจะต้องมีจุดคัดกรอง ประชาชนที่จะเข้ามารับสินของอุปโภคบริโภคต้องสวมหน้ากากตลอด มีการกำหนดจุดเข้า-ออก ที่ชัดเจน มีการเว้นระยะห่าง 1.5 -2 เมตร การประกอบอาหาร มีแม่ครัวที่เป็นจิตอาสา ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากไม่ได้เปิดร้านอาหาร โดยแม่ครัวทุกคนจะสวมผ้ากันเปื้อน ใส่หมวกคลุมผม ล้างมือก่อนประกอบอาหาร ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนทุกครั้งจึงจะสามารถทำอาหารได้ ซึ่งเป็นหลักที่โรงทานวางมาตรการไว้โดยอาหารต้องสะอาด มาตรการรับอาหารต้องเป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขหรือรัฐบาลกำหนดทุกประการ

“วันนี้ยินดีและมีความสุขมาก เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมโรงทานที่วัดระฆังโฆษิตาราม ซึ่งเป็นโรงทานต้นแบบ เปิดมาตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม จนถึงปัจจุบันนี้ระยะเวลาเดือนกว่าแล้ว โรงทานนี้ไม่เคยปิดตัวคอยช่วยเหลือประชาชนทุกภาคส่วน ซึ่งโครงการในอนาคตจะเป็นลักษณะ Drive-Thru (ไดร์ฟทรู )ก็เป็นแนวคิดการต่อยอดอีกวิธีการหนึ่ง”

นายณรงค์ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนกรณีประชาชนที่ไม่ได้อยู่ใกล้บริเวณพื้นที่วัด จะมีการปรับรูปแบบเพื่อช่วยเหลือประชาชน คือจะมีการตั้งโรงทานแบบเคลื่อนที่โดยนำอาหารเข้าชุมชน ภาษาชาวบ้านคือเดลิเวอรี่ โดยการจัดปรุงอาหารที่สดใหม่ ปรุง ใหม่ เพื่อนำอาหารไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อน โดยประสานผ่านทางผู้นำชุมชนเพื่อแจ้งวันและเวลากับประชาชนในชุมชน ขณะเดียวกันมีหลายวัดที่เป็นตัวอย่างใช้หลักธรรมของพระพุทธศาสนาและศาสตร์พระราชาเข้ามาหลอมรวมทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ คือ การใช้วัดเป็นศูนย์กลางเรียนรู้ ปลูกผักปลอดสารพิษ มีการทำไปหลายวัดแล้วโดยวัดต่างๆได้เชิญชวนประชาชนผู้ที่ยังไม่ได้กลับไปทำงาน เข้ามาปลูกผัก และนำมาขายที่วัดเพื่อทางวัดจะได้นำผักมาปรุงอาหารช่วยเหลือประชาชนอีกครั้ง สามารถทำให้เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียน

Advertisement

นายณรงค์ กล่าวต่อว่า โรงทานไม่ได้มีเฉพาะที่ประเทศไทย เรามีวัดอยู่ต่างประเทศ ประมาณ 550 กว่าวัดทั้งทวีปยุโรป สหรัฐอเมริกา และโซนโอเชียเนียด้วย แต่ในอีกมุมหนึ่งศาสนาอื่นที่เป็นคนไทยเหมือนกันก็ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งชาวต่างชาติด้วย อย่างไรก็ตาม ฝากไปถึงพี่น้องประชาชน หลักพระพุทธศาสนาบอกว่าให้เรามีความอดทนมีความพอเพียง เข้าใจธรรมชาติเข้าใจสิ่งที่จะเกิดขึ้น เมื่อมีสิ่งที่เกิดขึ้นก็จะมีสิ่งที่จะดับไป เพราะฉะนั้นขอให้อดทนไม่มีอะไรจะมาทำร้ายเราได้นอกจากตัวเราเอง เราต้องอดทน อดกลั้น ปฏิบัติตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนดถ้าเราทำได้อีกไม่นานสถานการณ์การแพร่ระบาดก็จะหายไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image