จนท.ทองผาภูมิ รวบ 2 นายพรานล่าสัตว์ป่าสงวน ขณะก่อไฟปรุงอาหารจากเม่นหางพวง

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตามนโยบาย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ดำเนินการป้องกันและรักษาทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่า อย่างเต็มที่ และให้ดำเนินการเด็ดขาดกับผู้ค้าและล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ออกลาดตระเวนเชิงคุณภาพ เพื่อป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรมชาติและสิ่งแวดล้อมรวมทั้งป้องกันกลุ่มนายพรานเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานฯ

กระทั่งเวลา 14.30 น.ของวันเดียวกัน คณะเจ้าหน้าที่ได้ลาดตระเวนไปถึงบริเวณป่าหุบคะเนียง ท้องที่หมู่ 1 ต.หินดาด อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่สังเกตพบกลุ่มควันลอยออกมาจากบริเวณโพรงเชิงเขาขนาดใหญ่ ที่มีลักษณะคล้ายถ้ำ จึงค่อยๆ เดินเข้าไปตรวจสอบ พบชาย 2 คนกำลังนั่งก่อไฟเพื่อทำอาหารอยู่ที่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว พร้อมกับตะโกนให้หยุด ทราบชื่อบุคคลคือนายทุนทุนเล ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา อายุ 40 ปี และนายเล ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา อายุ 23 ปี ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.หินดาด อ.ทองผาภูมิ


ส่วนของกลางที่ตรวจยึดเอาไว้ได้เป็นซากสัตว์ป่าคุ้มครอง 3 รายการ ประกอบด้วย ซากเม่นหางพวง ถูกสับเป็นชิ้นอยู่ในหม้อและกำลังปรุงเป็นอาหาร น้ำหนักชั่งได้ 3 กิโลกรัม ซากเห่าช้าง  1 ซาก น้ำหนัก 1.50 กิโลกรัม และซากบ่าง 1 ซาก น้ำหนัก 2 กิโลกรัม อุปกรณ์ที่ใช้กระทำผิด 7 รายการ ประกอบด้วย อาวุธปืนลูกซองยาว 2 กระบอก เครื่องกระสุน 4 นัด มีดพก 1 เล่ม เปลสนาม 1 หลัง ไฟฉาย 1 กระบอก กระเป๋าสะพาย 1 ใบ รถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะ 1 คัน

Advertisement

หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกเรื่องราวการกระทำผิดแล้วเสร็จ จึงคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหา เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้ปฎิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกรมอุทยานฯกำหนด ตามมาตรา 20 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2562 ระวางโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ร่วมกันนำอาวุธปืน เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ตามมาตรา 19 (7) พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ระวางโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และข้อหามีอาวุธปืนเถื่อนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ตามมาตรา 7 ทวิ พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนวัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ระวางโทษจำคุก 1 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 พันบาท ถึง 2 หมื่นบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image