หุ้นไทยปิด ดิ่ง ติดลบ 14.15 จุด ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน
วันที่ 14 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,294.55 จุด ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,276.68 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,280.40 จุด ปรับลดลง 14.15 จุดหรือ 1.09% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,290.24 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,275.85 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 46,654.45 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 955.91 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 259.59 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 1,947.80 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 3,163.31 ล้านบาท โดยระหว่างวัน ดัชนีลบน้อยสุด 4.31 จุด ลบมากสุด 18.70 จุด
โดยนางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยปิดในแดนลบ โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ซึ่งก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค
สาเหตุมาจากดัชนีแกว่งตัวตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ เนื่องจากความกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบ 2 กลับมากดดันตลาดค่อนข้างหนัก ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มจะไม่ใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ แม้ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐมีแนวโน้มไม่สดใสมากนัก ทำให้เกิดบรรยากาศเชิงลบกับตลาดหุ้นทั่วโลก
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นไทย เกิดแรงเทขายของนักลงทุน เพื่อลดความเสี่ยง หลังจากดัชนีปรับตัวแถวบริเวณแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,300 จุด แต่ยังไม่สามารถผ่านได้
“ต้องติดตามการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ (ศบค.) ว่าจะมีการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ และอนุญาตให้ธุรกิจใดกลับมาเริ่มต้นได้ปกติเพิ่มเติม และราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าที่แกว่งตัวเล็กน้อย แต่ปรับขึ้นมาบ้างแล้ว หลังจากที่ปรับระดับลงในช่วงที่ผ่านมา จึงแนะนำให้เลือกลงทุนในหุ้นพลังงาน ซึ่งจะได้อานิสงค์เชิงบวกจากราคาน้ำมันฟื้นตัวได้” นางสาววิลาสินีกล่าว