พลังงานเร่งอัดเงิน3.6พันล.จ้างงานศก.ฐานราก ย้ำต้องกระตุ้นจริง ซื้ออุปกรณ์เฉยๆไม่ให้

ก.พลังงานเร่งอัดเงินกองทุนอนุรักษ์3.6พันล.จ้างงานศก.ฐานราก เปิดท้องถิ่นเสนอตรง-จังหวัดต้องให้ผู้ว่าฯเคาะ ย้ำต้องกระตุ้นจริง ซื้ออุปกรณ์เฉยๆไม่ให้

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างการจ้างงาน ผ่านกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงินงบประมาณ 5,600 ล้านบาท ว่า ภายหลังคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่มี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา และได้กำหนดเป้าหมายให้ใช้งบประมาณกับโครงการที่มีเป้าหมายเพื่อเศรษฐกิจฐานราก กระตุ้นการจ้างงานนั้น ล่าสุดได้ข้อสรุปว่าจะใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากวงเงิน 3,600 ล้านบาท กำหนดผู้เสนอโครงการเป็น 2 ส่วน คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งสามารถเสนอโครงการเข้ามาที่สำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานโดยตรง และระดับจังหวัดซึ่งจะมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานคณะทำงาน มีหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ ทรัพยากรธรรมชาติจังหวัด มีพลังงานจังหวัดเป็นเลขานุการ ซึ่งกรอบโครงการจะเป็นโครงการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานและพลังงานทดแทน ที่มีเป้าหมายสนับสนุน ยกระดับชุมชน กระตุ้นจ้างงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม

“โครงการที่จะเสนอเข้ามาจะต้องไม่ใช่การซื้อของแล้วจบ แต่ต้องเป็นโครงการที่ดำเนินการทั้งระบบ อาทิ จังหวัดอาจไปดูว่าพื้นที่ไหนยังไม่มีไฟฟ้าใช้ อาจเสนอโครงการติดตั้งโซลาร์ ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติจังหวัดจะรู้ว่าพื้นที่นั้นๆรุกป่าหรือไม่ เพื่อให้การติดตั้งไม่มีปัญหาภายหลัง หรืออาจเสนอโครงการสูบน้ำเพื่อทำเกษตรกรรม อาจพ่วงมีโพลาโบลาสำหรับแปรรูปสินค้าเกษตร หรือบางพื้นที่อาจทำแปลงดอกไม้เพื่อการท่องเที่ยวและมีห้องเย็นสำหรับเก็บรักษา ซึ่งโครงการเหล่านี้จะสร้างงานในพื้นที่จริงๆ โครงการที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจนถึงประโยชน์ที่ชุมชนได้รับจะไม่ได้รับการพิจารณา”นายกุลิศกล่าว

นายกุลิศ กล่าวว่า สำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ได้เปิดรับข้อเสนอโครงการแล้วเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา และจะปิดรับโครงการวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ คาดว่าจะมีผู้สนใจเสนอโครงการเข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และระดับจังหวัด เนื่องจากกองทุนฯได้ออกประกาศแจ้งให้ทราบถึงโครงการนี้มาระยะหนึ่งแล้วก่อนเปิดรับโครงการอย่างเป็นทางการ เบื้องต้นมีหลายจังหวัดเสนอเข้ามาแล้ว อาทิ นครนายก สุพรรณบุรี ขอนแก่น โดยหลังจากปิดรับโครงการจะเร่งเดินหน้าพิจารณาและอนุมัติโครงการที่ผ่านเกณฑ์ คาดว่าจะมีเม็ดเงินจะเข้าระบบช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้

นายกุลิศ กล่าวว่า สำหรับงบประมาณอีก 2,000 ล้านบาทนั้น จะเปิดรับโครงการด้านการวิจัย โครงการต้นแบบ โครงการด้านการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานและพลังงานทดแทนในพื้นที่ต่างๆ และใช้สำหรับการบริการจัดการด้านต่างๆด้วย อาทิ อบรมความรู้ การกระตุ้นให้อนุรักษ์พลังงาน

Advertisement

นายกุลิศ ยังกล่าวถึงแพคเกจฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านพลังงาน ซึ่งจะใช้งบประมาณฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก 400,000 ล้านบาทว่า ล่าสุด นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้สั่งการให้กระทรวงพลังงานเร่งพิจารณาโครงการที่เหมาะสมแล้ว คาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆนี้ และจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image