หมอระบาดแนะ รัฐฯ ต้องบอก “ธุรกิจสถานบันเทิง” ตรงๆ คงเปิดไม่ได้ อาจต้องเปลี่ยนไปทำธุรกิจอื่น

หมอระบาดแนะ รัฐฯ ต้องบอก “ธุรกิจสถานบันเทิง” ตรงๆ คงเปิดไม่ได้ อาจต้องเปลี่ยนไปทำธุรกิจอื่น

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เฉพาะการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และอดีตนายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านเวชกรรมป้องกัน สาขาระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวในช่วงหนึ่งของการเสวนา “ทิศทางประเทศไทย : ฝ่าวิกฤตโควิด-19 สู่ชีวิตวิถีใหม่” เปิดมุมมองแนวทางการพัฒนาประเทศไทยภายหลังวิกฤตโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด-19

นพ.คำนวณ กล่าวว่า มาตรการผ่อนปรนที่รัฐบาลกำลังดำเนินการขณะนี้ ที่แบ่งออกเป็น 4 ระยะ และในขณะนี้อยู่ในช่วงของการเปิดกิจการ/กิจกรรมระยะที่ 2 แต่ยังไม่มีความน่าเป็นห่วงนัก เนื่องจากสิ่งที่น่าห่วงคือ การเปิดกิจการ/กิจกรรมในระยะที่ 4 ช่วงปลายเดือนมิถุนายน ที่เป็นธุรกิจกลุ่มสีแดง อาทิ ธุรกิจสถานบันเทิง สนามมวย สนามพนัน ผับ บาร์ พร้อมทั้งในเดือนมิถุนายนเป็นช่วงหน้าฝนของประเทศไทย ซึ่งจะมีโรคประจำถิ่นคือ โรคไข้หวัดใหญ่ ดังนั้นเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้โรคโควิด-19 จะมีการระบาดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น หากมีการเปิดกิจการ/กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง จะส่งผลให้มีการแพร่ระบาดของโรคได้มากขึ้น

“รัฐบาลต้องคิดหนัก ต้องหาทางช่วยเหลือธุรกิจสถานบันเทิง จะต้องบอกกับเขาตรงๆ เลยว่าเราเปิดให้เขาไม่ได้ คุณต้องยอมรับ เราจะหาทางช่วยคุณ คุณต้องไปหาธุรกิจอย่างอื่น เพราะหากเราเปิด เราจะเจอเหตุการณ์แบบประเทศเกาหลีใต้อย่างแน่นอน ที่มีการระบาดขึ้นมาอีก เนื่องจากในสถานบันเทิงไม่สามารถเว้นระยะห่าง หรือสวมใส่หน้ากากอนามัย ลดการใช้เสียงในสถานบันเทิงต่างๆได้ รัฐบาลจะต้องตัดสินใจชัดๆ ในเรื่องนี้และหาทางช่วยคนที่ทำธุรกิจสถานบันเทิง” นพ.คำนวณ กล่าว

นพ.คำนวณ กล่าวต่อว่า เรื่องของสถานศึกษา ที่จะเปิดในต้นเดือนกรกฎาคม เป็นเรื่องที่น่ากังวลแต่อย่างไรก็ตามจะต้องดำเนินการเปิด เนื่องจากจะต้องให้เด็กได้เรียนหนังสือ แต่ต้องยอมรับว่าหากเกิดการระบาดแล้วตัดต้องทำการปิดโรงเรียนก็เป็นเรื่องที่ปกติ และไม่ต้องตกใจ เนื่องจากหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่จะต้องพยายามทำให้ดีที่สุด ในเรื่องของการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศก็จะต้องทำการเปิดเช่นเดียวกัน แต่จะต้องอยู่ในลักษณะการทยอยเปิด เพียงแต่ว่าจะต้องกำหนดลักษณะการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ

Advertisement

“ส่วนการระบาดในกลุ่มเปราะบาง เช่น ภายในเรือนจำ แรงงานข้ามชาติ ชุมชนแออัด สถานสงเคราะห์และในโรงพยาบาล (รพ.) จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะหากถ้าเรามีการเตรียมการ การยอมรับ ว่าเราหนีมันไม่พ้น เราจะต้องเตรียมและจัดการกับมัน และเราก็จะที่มีปัญหาสุขภาพอย่างอื่นเข้าแถวตามมา เช่น สุขภาพจิต โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง สิ่งเหล่านี้มันจะทยอยตามมาเรื่อยๆ ดังนั้นเราจะมีวิกฤตมีฉากที่น่าหวาดเสียว แต่หากเราตั้งสติได้เตรียมตัว ได้ ผมมั่นใจว่าเราจะผ่านสิ่งต่างๆเหล่านี้ไปได้ แต่ขอให้เรายอมรับความจริงว่าเราต้องเพิ่มความระมัดระวัง ต้องร่วมมือกันเดินหน้าอย่าหยุด และพร้อมที่จะแก้ไขปัญหา ” นพ.คำนวณ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image