‘ทรู’ โตสวนโควิด-19 กวาดรายได้ Q1/63 2.58 หมื่นลบ. โต 5% ลูกค้ารายเดือนหันซบ 3 แสนราย

นายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มทรู มีรายได้จากการให้บริการหลัก 2.58 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5% ขณะที่ กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้ตัดจำหน่าย เพิ่มขึ้นเป็น 1.22 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน ส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 2.3 พันล้านบาท แบ่งเป็น ทรูมูฟ เอช มีรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 5.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็น 2.01 หมื่นล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2563 ส่วนใหญ่จากการเติบโตในอัตราเลขสองหลักของรายได้จากกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือน (โพสต์เพด) แม้รายได้ที่เกี่ยวข้องกับบริการโรมมิ่งและนักท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงปลายไตรมาส ทรูมูฟ เอช ยังมีรายได้ที่เติบโตจากไตรมาสก่อน สวนทางกับอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผลจากกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือน (โพสต์เพด) ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิกว่า 3 แสนรายในไตรมาส 1 ปี 2563 ส่งผลให้ทรูมูฟ เอช มีฐานผู้ใช้บริการรวมเป็น 30.3 ล้านราย แบ่งเป็น ลูกค้าระบบรายเดือน (โพสต์เพด) 8.6 ล้านราย และระบบเติมเงิน (พรีเพด) 21.7 ล้านราย

ส่วนทรูออนไลน์ มีรายได้จากการให้บริการบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต 6.5 พันล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2563 คิดเป็นการเติบโต 4.7% จากปีก่อน จากผลตอบรับที่ดีต่อแพ็กเกจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 1 กิกะไบต์ รวมถึงแพ็กเกจคอนเวอร์เจนซ์ที่ผสานคอนเทนต์คุณภาพผ่าน ทรูไอดีทีวี ได้อย่างคุ้มค่า ทำให้ทรูออนไลน์ มีฐานผู้ใช้บริการบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต เพิ่มขึ้นเป็น 3.9 ล้านราย ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิ 5.5 หมื่นรายในระหว่างไตรมาส

ขณะที่ ทรูวิชั่นส์ มีรายได้จากการให้บริการ 2.6 พันล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2563 ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้การจัดงานอีเว้นต์บันเทิงและรายการกีฬาสดต่างๆ ถูกเลื่อนออกไป ส่งผลให้ทั้งรายได้และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องลดลงเช่นกัน โดย ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2563 ทรูวิชั่นส์มีฐานลูกค้าประมาณ 4 ล้านราย

ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป เดินหน้าสร้างความแตกต่างให้กับกลุ่มทรู ด้วยธุรกิจและการให้บริการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสแรกของปี 2563 แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง ทรูไอดี มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในกลุ่มแอปพลิเคชันหมวดบันเทิง ทั้งในระบบแอนดรอยด์และไอโอเอส โดยมียอดรับชมวิดีโอต่อเดือนสูงถึง 141 ล้าน และมียอดรับชมบริการวิดีโดออนดีมานด์ สูงสุดที่ 36.9 ล้าน นับเป็นการเติบโตถึง 400% เมื่อเทียบกับปีก่อน อีกทั้งยังมีจำนวนการสมัครรับชมคอนเทนต์ทรูไอดีเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ต้นปีเป็น 285,000 รายการ นอกจากนี้ ฟังก์ชันที่เพิ่มเข้ามา เช่น การแชทและการโทรหากันผ่านแอพพลิเคชัน ทรูไอดี ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ใช้งานต่อเดือนสูงถึง 280,000 ราย ขณะที่กล่องทรูไอดี ทีวี ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่องด้วยยอดรวม 843,000 กล่อง

Advertisement

นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวว่า ไตรมาสแรกของปีนี้ เป็นอีกช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับการดำเนินธุรกิจเนื่องจากมีผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 ในช่วงปลายไตรมาส แต่กลุ่มทรูก็ยังมีผลการดำเนินงานที่ดี มีกำไรจากการดำเนินงานและสร้างการเติบโตของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างต่อเนื่องทั้งด้านรายได้และฐานผู้ใช้บริการรายเดือน สวนทางกับภาพรวมของอุตสาหกรรมที่มีรายได้ลดลงจากไตรมาสก่อน ด้วยจุดเด่นด้านเครือข่ายคุณภาพสูงของทรูมูฟ เอช ซึ่งแม้ในช่วงวิกฤตที่มีการใช้งานการสื่อสารที่เพิ่มสูงมาก ทรูมูฟ เอช ยังได้รับการยืนยันจากสถาบันทดสอบคุณภาพระดับโลกอย่างเอ็นเพิร์ฟ ประกาศให้ ทรูมูฟ เอช เป็นเครือข่ายที่ดีที่สุดในประเทศไทยประจำไตรมาส 1 ปี 2563 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4

นายอาณัติ กล่าวว่า นอกจากนี้ แนวโน้มความต้องการใช้บริการบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ตของทรูออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มีการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ในปลายไตรมาส 1 ในขณะเดียวกัน ด้วยความพร้อมของกลุ่มทรู ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนสู่การเป็นดิจิทัล ทั้งการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาปรับใช้ให้บริการลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และดิจิทัลแพลตฟอร์มที่หลากหลาย อาทิ ทรูไอดี, ทรูไอเซอร์วิส, บริการมะลิผ่านไลน์ทรูมูฟ เอช การจัดจำหน่ายทางออนไลน์ผ่าน wemall.com พร้อมบริการจัดส่งถึงบ้าน ตลอดจนการมีพันธมิตรที่มีช่องทางการขายและจัดจำหน่ายอยู่ทั่วประเทศ จึงช่วยผลักดันการเติบโตและลดผลกระทบจากการประกาศปิดร้านค้าต่างๆ

“แม้ในสภาวะวิกฤตเช่นนี้ โดยกลุ่มทรูเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตผ่านพฤติกรรมผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่มีแนวโน้มการใช้ชีวิตแบบดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ทั้งโซลูชันด้านดิจิทัล ธุรกรรมและการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้วิกฤตครั้งนี้ ช่วงเร่งให้กลุ่มทรูสามารถเติบโตร่วมไปกับการก้าวสู่วิถีชีวิตแบบใหม่ (นิวนอร์มอล) ด้วยระบบนิเวศและโซลูชันดิจิทัลที่ครอบคลุมและครบครัน” นายอาณัติ กล่าว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image