จับตา’จังหวัด-ท้องถิ่น’แห่เสนอโครงการวงเงิน6.5หมื่นล. ขอเงินกองทุนอนุรักษ์พลังงานที่มีงบเพียง5.6พันล. หลังก.พลังงานมีนโยบายสนับสนุนเงินกองทุนฯกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากหลังเผชิญโควิด-19
รายงานข่าวจาก สำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน แจ้งว่า หลังจากกองทุนฯ เปิดรับข้อเสนอโครงการเมื่อวันที่ 28 เมษายน และปิดรับโครงการเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พบว่า มีผู้เสนอโครงการเข้ามามากถึง 5,000 โครงการ มูลค่ากว่า 65,000 ล้านบาท จากงบประมาณกองทุนฯปี 2563 ได้รับการจัดสรรอยู่ที่ 5,600 ล้านบาท ดังนั้นหลังจากนี้สำนักงานบริหารกองทุนฯจะเร่งจัดทำหลักเกณฑ์การพิจารณาโครงการที่เข้มข้น และรอบคอบ เพราะกองทุนฯกำลังเป็นที่จับตาของสังคม โดยเฉพาะโครงการที่มีเป้าหมายกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากเน้นการจ้างงาน สร้างอาชีพให้ชุมชนในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ที่เปิดให้จังหวัด และท้องถิ่นเสนอเข้ามา โดยส่วนนี้กองทุนฯจัดสรรงบประมาณไว้ 3,600 ล้านบาท ส่วนอีก 2,000 ล้านบาท เป็นโครงการที่เกี่ยวกับการวิจัยพัฒนาด้านพลังงาน โครงการเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานทดแทน การอนุรักษ์พลังงานด้านต่างๆที่กองทุนฯเปิดรับทุกปี
“จากโครงการที่เข้ามาพบว่าส่วนใหญ่เป็นโครงการระดับจังหวัดและท้องถิ่น โดยหลังจากนี้กองทุนฯจะพิจารณารายโครงการเพื่อประเมินเบื้องต้นว่าเข้าเกณฑ์หรือไม่ จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในขั้นตอนต่อไป มีคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกองทุน เป็นผู้พิจารณา ซึ่งการพิจารณาจะต้องรอบคอบ ตอบคำถามทุกฝ่ายได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ผ่านเกณฑ์ ประกอบกับโครงการนี้ถูกจับตาอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่าฝ่ายการเมืองพยายามเข้ามาแทรกแซง”รายงานข่าวระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ มีกระแสข่าวว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เตรียมนำเงินกองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 5,600 ล้านบาท มาแลกกับเก้าอี้เลขาธิการพรรคพลังงานประชารัฐโดยเสนองบตัวเลข 8 หลักให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)ให้ยกมือสนับสนุน แต่ต่อมานายสนธิรัตน์ได้เปิดแถลงข่าวตอบโต้ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะทุกขั้นตอนการอนุมัติได้กำหนดระบบกลไกการตรวจสอบที่จะทำให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้นหากเทียบกับอดีต ดังนั้นตนจึงไม่ได้กังวลว่าเรื่องดังกล่าวจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งทางการเมืองแต่อย่างใด
