ที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศประเทศไทย กล่าวในงานสัมมนาออนไลน์ห้วข้อ” เปิดเมอง ปลอดภัย ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 ด้วยวิถีธุรกิจแบบใหม่” ว่า คาดว่าวิกฤตโควิด-19 จะจบลงในอีก 1 ปี หรือ 1ปีครึ่งจากนี้ ในแง่สาธารณสุข เมื่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 หมดลงและมียาฆ่าเชื้อไวรัสโควิดแล้ว แต่ในแง่เศรษฐกิจคาดว่าจะฟื้นตัวกลับมาเหมือนปี 2562 คงต้องใช้เวลา 3 ปีขึ้นไป สำหรับผลกระทบเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ มักจะเกิดปัญหาการใช้มาตรการกีดดันทางการค้าตามมา ซึ่งเห็นสัญญาณจากสหรัฐฯร่างกฎหมายCOVID-19 Accountability Actให้อำนาจประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกข้อมูลต่างๆและเหตุการณ์ทั้งหลายที่นำไปสู่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ ซึ่งเป็นการกดดันจีน อาจกระทบต่อความสัมพันธ์กลายเป็นสงครามการค้ากันอีก ซึ่งเอกชนไทยต้องติดตามสถานการณ์และระวังในการทำธุรกิจจากนี้อีก 2-3 ปี เพราะเจอทั้งภาวะเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า กำลังซื้อลดลง มาตรการกีดกันโดยเพิ่มการเก็บภาษีเพิ่มด้านสิ่งแวดล้อมจะเพิ่มขึ้น ธุรกิจจะเจอทั้งต้นทุนสูง แข่งขันรุนแรง รายได้และกำไรลดลง กระทบต่อการใช้จ่ายและแรงงาน รวมถึงการทบทวนลดงบประมาณหรือเลื่อนการลงทุนขนาดใหญ่ออกไปเพราะงบประมาณบางส่วนนำมาใช้ช่วงโควิด-19
“ สองส่วนที่เห็นว่าน่าจะทำในช่วงนี้ คือ รณรงค์เวิร์กฟรอมโฮม ให้ธุรกิจขนาดใหญ่และราชการเลื่อนเวลาออกไปก่อน โดยจากการที่สถาบันใช้เวิร์กฟรอมโฮม โดยควบคุมการทำงานตามปกติ พบว่า ลดต้นทุนการบริหารจัดการของสำนักงานฯ และพนักงานก็ลดในเรื่องค่าใช้จ่ายเดินทาง และการเสียเวลาในการทำงาน ซึ่งสามารถใช้เทคโนโลยีมาใช้ เทคโนโลยี 5 จี ช่วยได้มาก ในส่วนธุรกิจเองควรวางแผนธุรกิจระยะสั้น 1-3 ปี ที่อยู่ในช่วงปรับตัวรับนิวนอร์มอล กับ แผนระยะกลางและยาว หากช่วงสั้นๆเจอปัญหา เพื่อให้รู้ทิศทางการทำธุรกิจ “ นายสมเกียรติ กล่าว
