รองโฆษกอสส.เผย อัยการเเขวง9 ตีกลับสำนวน’เสี่ยโป้’-พวกชวนเล่นพนันออนไลน์ เหตุ สน.บางเขนไม่เเจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ชี้ความผิดโทษสูง10ปีเกินอำนาจศาลเเขวง ต้องส่งอัยการคดีพิเศษทำสำนวน
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม นายประยุทธ เพชรคุณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงคดีที่พนักงานสอบสวน สน.บางเขนนำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง
นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ กับพวกรวม 6 คนในความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ เอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต ว่าอัยการสำนักงานคดีศาลเเขวง 9 (ดอนเมือง)ได้รับสำนวนเเล้วพิจารณาเเล้วการกระทำของ นายเสี่ยโป้กับพวกรวม6คนเป็นความผิดมูลฐานร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันเเละปราบปรามกันฟอกเงิน2542มาตรา 3(9) เนื่องจากพิจารณาเเล้วเห็นตามกฎหมายฟอกเงินเขียนไว้ว่า เงินที่ได้การพนันอิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นความผิดมูลฐานการฟอกเงิน เเละมาตรา4 บัญญัติใครครอบครอง โอน เงินที่ได้จากความผิดมูลฐานมีความผิดฐานฟอกเงินตาม มาตรา 5 เเละ มีบทลงโทษตามมาตรา 60 ที่ว่าผู้ใดมีความผิดฐานฟอกเงินมีโทษจำคุก1-10ปี ปรับตั้งเเต่ 2หมื่น-2เเสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจะเกินอำนาจอัยการศาลเเขวง ทางอัยการจึงต้องตีสำนวนกลับไปที่สน.บางเขนเพื่อให้ดำเนินคดีเเจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงินตาม พ.ร.บ.ป้องกันเเละปราบปรามการฟอกเงินต่อไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมาซึ่งเท่ากับคดีนี้ไม่ได้อยู่ในชั้นอัยการ ซึ่งหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สน.บางเขนที่จะไปทำสำนวนพร้อมความเห็นส่งมายังพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษที่รับผิดชอบในความผิดฐานฟอกเงินพิจารณาสำนวนต่อมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านอกจากสำนวนคดีนี้ที่อัยการสำนักงานคดีศาลเเขวง 9 ตีกลับไปยัง สน.บางเขนเเล้ว นายเสี่ยโป้ ยังมีคดีที่อยู่ในมือพนักงานสอบสวน ปอท.ที่ได้มีการจับกุม นายเสี่ยโป้ พร้อมภรรยา เเละ นายมัครินทร์ พุ่มสะอาด หรือ เน วัดดาว และนายรัชชานนท์ พินิจ ฐานร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หลังชวนชาวประชาชนให้เล่นพนันออนไลน์หลายครั้ง โดยใช้วิธีไลฟ์สดในลักษณะอนาจารเรียกยอดเข้าชมร่วมร้อยครั้ง เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา
