หุ้น ‘บินไทย’ ราคาพุ่งสวนทางบริษัทเข้าแผนฟื้นฟู ‘ตลท.’ ย้ำติดตามความเคลื่อนไหวใกล้ชิด

หุ้นบินไทยราคาพุ่งสวนทางบริษัทเข้าแผนฟื้นฟูตลท.’ ย้ำติดตามความเคลื่อนไหวใกล้ชิด

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เข้าสู่กระบวนการล้มละลายของศาลล้มละลาย แต่ราคาหุ้นการบินไทยปรับตัวขึ้นสวนทางกับภาวะของธุรกิจบริษัท โดยราคาปรับขึ้นชนเพดานสูงสุดของการซื้อ (ซีลลิ่ง) ถึง 8 ครั้งในระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้นิ่งเฉย แต่มีการติดตามดูความเคลื่อนไหวของหุ้นที่มีความผันผวนในราคา และปริมาณการซื้อขายที่เคลื่อนไหวผิดปกติอยู่แล้ว ซึ่งจะประเมินผลว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุใด โดยหากพบความผิดปกติตลาดหลักทรัพย์จะให้บริษัทจดทะเบียนดังกล่าวรายงานข้อมูลทันที พร้อมทั้งส่งข้อมูลไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (...) โดยตลาดหลักทรัพย์ฝากถึงนักลงทุน กรณีการลงทุนในหุ้นที่ยังไม่มีความชัดเจนในแผนฟื้นฟูจะต้องวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด เพราะถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบแนวทางแก้ปัญหาและผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งจากความไม่ชัดเจนขณะนี้ถือว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมาก

ด้าน นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของหลายอุตสาหกรรม ซึ่งอาจทำให้มีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทยบางบริษัทจำเป็นต้องตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ โดยยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอฟื้นฟูกิจการ ซึ่งบริษัทจดทะเบียนมีหน้าที่ต่อผู้ถือหุ้น ที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลสำคัญให้ทราบโดยทั่วถึงกัน ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลงบการเงิน ข้อมูลสำคัญที่มีผลต่อราคาหุ้น มติที่ประชุมกรรมการบริษัท มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น รวมทั้งข้อมูลอื่นๆ ที่มีนัยสำคัญต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ได้ยึดเป็นหลักการสำคัญในการดูแลผู้ลงทุน เพื่อให้มีข้อมูลที่เพียงพอในการพิจารณาตัดสินใจลงทุน ดังนั้น เมื่อบริษัทเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการก็ยังคงมีหน้าที่และแนวทางการปฏิบัติเหมือนบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ คือต้องเปิดเผยข้อมูลต่างๆ และที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือ การรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ อาทิ การยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อศาลพิจารณารับคำร้อง สาระสำคัญของแผนฟื้นฟูกิจการ และเมื่อศาลอนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการ

 

นายแมนพงศ์กล่าวว่า สำหรับการขึ้นเครื่องหมายบนหลักทรัพย์เป็นอีกหนึ่งมาตรการในการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนและคุ้มครองผู้ลงทุน โดยการขึ้นเครื่องหมายแต่ละประเภทนั้นมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น เครื่องหมาย “C” (Caution) ใช้เพื่อเตือนผู้ลงทุนให้เพิ่มความระมัดระวัง และศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ โดยเมื่อศาลรับพิจารณาคำร้องฟื้นฟูกิจการ หรืองบการเงินมีส่วนของทุนต่ำกว่า 50% ของทุนเรียกชำระแล้ว กรณีใดกรณีหนึ่งหรือทั้งสองกรณี ตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย “C” โดยผู้ลงทุนยังคงซื้อขายได้ด้วยบัญชี cash balance (ผู้ลงทุนวางเงินสดล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนซื้อขาย) และบริษัทเองก็มีหน้าที่รายงานความคืบหน้าของการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูกิจการต่อผู้ลงทุนทุก ไตรมาส ส่วนการส่งงบการเงินจะต้องส่งตามกำหนดเวลาปกติเหมือนบริษัทจดทะเบียนทั่วไป ส่วนเครื่องหมายแสดงการห้ามซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราว (เอสพี) จะเกิดขึ้นเมื่อมีเหตุต่างๆ อาทิ บริษัทไม่ส่งงบการเงินตามกำหนดเวลา โดยจะขึ้นเครื่องหมายหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน (เอ็นซี) ควบคู่ไปด้วยหากบริษัทเข้าสู่เหตุเพิกถอนจากการที่ส่วนของทุนมีค่าติดลบ ซึ่งจะพิจารณาจากงบการเงินงวดปีเท่านั้น ไม่ได้พิจารณาจากงบการเงินงวดไตรมาส ซึ่งเครื่องหมายเอสพีดังกล่าวจะมีผลทำให้หุ้นของบริษัทถูกพักการซื้อขาย และจะกลับมาซื้อขายใหม่ก็ต่อเมื่อบริษัทแก้เหตุเพิกถอนตามเกณฑ์และระยะเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด

Advertisement

 

“ตลาดหลักทรัพย์มีกลไกและแนวทางเพื่อดูแลผู้ถือหุ้น ครอบคลุมทั้งกรณีปกติและกรณีบริษัทจดทะเบียนที่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ขณะเดียวกัน บริษัทจดทะเบียนเองก็มีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาของบริษัทควบคู่ไปกับการเปิดเผยข้อมูลให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนรับทราบอย่างเท่าเทียม ที่สำคัญผู้ลงทุนควรติดตามข้อมูลข่าวสารของบริษัทที่ท่านลงทุนอย่างสม่ำเสมอจากเว็บไซต์ www.set.or.th และแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อเป็นประโยชน์ของนักลงทุนในการตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ได้มั่นใจและทันเหตุการณ์” นายแมนพงศ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI มีการซื้อขายในปริมาณมาก โดยราคาหุ้นเคลื่อนไหวผันผวน และมีการเก็งกำไรอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลพบว่าหุ้นการบินไทยราคาขึ้นชนเพดานซื้อสูงสุดถึง 8 ครั้ง ได้แก่วันที่ 3, 7, 8, 9, 10 และ 16 เมษายน 2563 และวันที่ 19, 20 พฤษภาคม 2563 โดยล่าสุดราคา วันที่ 21 พฤษภาคม 2563 อยู่ที่ 5.25 บาทต่อหุ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image