วัคซีน’กาฬโรคม้า’ล็อต 2 พร้อม!!! กรมปศุสัตว์เร่ง ฉีดทุกพื้นที่เสี่ยง

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม  นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการป้องกันและควบคุมโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้าว่า เนื่องด้วยประเทศไทยช่วงนี้ได้ย่างเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งจะเป็นปัจจัยให้มีแมลงพาหะเพิ่มจำนวนมากขึ้น อีกทั้งจากข้อมูลทางระบาดวิทยาทางการสัตวแพทย์พบว่า พายุฝนสามารถพาแมลงที่เป็นพาหะโดยเฉพาะตัวริ้น ไปไกลได้ถึง 150 กิโลเมตร ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า กรมปศุสัตว์จึงได้มีการการนำเข้าวัคซีนเพิ่มเติมจำนวน 4,000 โดส

นายสัตวแพทย์สรวิศกล่าวว่า วันนี้กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการเบิกจ่ายวัคซีนป้องกันโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้าให้แก่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงไปฉีดให้แก่ม้าในพื้นที่เพื่อป้องกันโรค เนื่องจากโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้าเป็นโรคที่ทำให้ม้าที่ได้รับเชื้อมีอัตราการตายสูง เกิดจากเชื้อไวรัส ยังไม่มียารักษา แต่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ซึ่งวัคซีนที่นำมาใช้เป็นวัคซีนเชื้อเป็น (live attenuated vaccine) ชนิด trivalent ที่ประกอบด้วย serotype 1,3 และ 4 นำเข้าจากประเทศแอฟริกาใต้

นายสัตวแพทย์สรวิศกล่าวว่า ในการฉีดวัคซีนเจ้าของม้าต้องมีการเตรียมความพร้อมดังต่อไปนี้
1. นำม้าเข้ามุ้งตาถี่ 32 ตา ก่อนเจาะเลือด 3 วัน และหลังการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 30 วัน

2. ใช้ยาฆ่าแมลงกลุ่ม alphacypermethrin, pyrethroid หรือยาฆ่าแมลงกลุ่มอื่นที่เหมาะสมรมควันหรือพ่นมุ้ง และใช้ยาไล่แมลง etofenprox หรือยาฆ่าแมลงกลุ่มอื่นที่เหมาะสมพ่นบนตัวม้าและมุ้งเพื่อป้องกันไม่ให้แมลงกัดม้า และกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์แมลง เช่น มูลม้า เป็นต้น โดยการทำความสะอาด ทำให้สถานที่เลี้ยงม้าแห้งอยู่เสมอ ไม่มีแหล่งน้ำขังชื้นแฉะ และใช้ยาฆ่าแมลงที่เหมาะสม เช่น cypermethrin

Advertisement

3. หมั่นดูแลสุขภาพสัตว์ให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ

จากนั้นเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์จะเข้าไปดำเนินการฉีดวัคซีนโดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ขึ้นทะเบียนม้าทุกตัว โดยฝังไมโครชิพ และลงข้อมูลในฐานข้อมูล NID
2. เก็บตัวอย่างเลือดม้าส่งห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจดูการติดเชื้อ
3. ดำเนินการฉีดวัคซีนในสัตว์ที่ไม่พบการติดเชื้อ และติดตามอาการข้างเคียงภายหลังจากฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 72 ชั่วโมง (หากแสดงอาการข้างเคียง ให้ดูแลรักษาตามอาการ) ในกรณีที่ม้าตั้งท้องให้พิจารณาการให้วัคซีนตามดุลยพินิจจากสัตวแพทย์ผู้ทำการฉีด
4. หลังจากฉีดวัคซีนภายใน 1 เดือน เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จะเข้าไปเก็บตัวอย่างเลือด เพื่อดูการตอบสนองของภูมิคุ้มกันหลังจากฉีดวัคซีน หากพบมีระดับภูมิคุ้มกันไม่อยู่ในระดับที่ป้องกันโรคได้ให้ฉีดวัคซีนกระตุ้นซ้ำ

ดังนั้นจึงขอความร่วมมือเจ้าของม้าทุกท่านให้เตรียมความพร้อมในการฉีดวัคซีนตามมาตรการที่กล่าวข้างต้น เพื่อที่จะให้การควบคุม และกำจัดโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้าให้หมดจากประเทศไทยโดยเร็วและขอคืนสถานภาพปลอดโรคจากองค์การสุขภาพสัตว์โลกต่อไป

Advertisement

อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่าสำหรับสถานการณ์โรคในปัจจุบันนั้นจากการที่กรมปศุสัตว์ร่วมกับทุกภาคส่วนเข้าไปควบคุมโรคทำให้สถานการณ์การเกิดโรคอยู่ในวงจำกัด จากข้อมูลวันที่ 21 พฤษภาคม 2563 ไม่พบม้าป่วยตายในทุกจังหวัด แต่อย่างไรก็ตามเจ้าของม้าไม่ควรประมาท ขอให้ดำเนินการการควบคุมและป้องกันโรคอย่างครบถ้วนตามมาตรการของกรมปศุสัตว์อันได้แก่ การป้องกันแมลง และการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์แมลง ซึ่งการทำมุ้งป้องกันแมลงต้องใช้มุ้งขาวตาถี่ 32 ตา อีกทั้งยังต้องมีการจัดการสุขภิบาลในฟาร์มเพื่อเป็นการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์แมลงที่เป็นพาหะ และหากพบม้ามีอาการป่วยหรือตาย ขอให้แจ้งปศุสัตว์อำเภอ ปศุสัตว์ใกล้บ้าน หรือสายด่วนแจ้งโรค 063-225-6888 หรือ แอพลิเคชั่น DLD 4.0 เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image