โยนกันวุ่น! ปัญหาวัดดังบางสะพาน สร้างศาลาแปดเหลี่ยมในอ่างเก็บน้ำกรมชลประทาน
วันที่ 23 พฤษภาคม 2563 นายมงคล สุขประเสริฐ กำนัน ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรง 4 หมู่บ้าน โดยเฉพาะที่บ้านวังน้ำเขียวหมู่ 7 ชาวบ้าน ได้รับผลกระทบจากน้ำกินน้ำใช้และน้ำเพื่อการเกษตร เนื่องจากไม่มีแหล่งน้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำวังน้ำเขียว โดยปัจจุบันสภาพอ่างแห้งแล้งกลายเป็นทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ ขณะที่ หน่วยงานภาครัฐไม่สามารถใช้เครื่องจักรกลหนักเข้าไปขุดลอกอ่างดังกล่าวได้ หลังจากเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีวัดแห่งหนึ่งขู่ฟ้องร้องแจ้งความเนินคดี หากเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการ ทั้งที่อ่างดังกล่าวกรมชลประทานได้ขอให้พื้นที่จากกรมป่าไม้ จำนวน 180 ไร่ เพื่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กก่อนมีการสร้างวัด
“ที่ผ่านมาวัดดังกล่าวได้แจ้งครอบครองสิทธิในที่ดิน สปก. 14 ไร่ โดยมีการปลูกสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นอาคารแปดเหลี่ยม ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำ แต่ปัจจุบันกรมชลประทานยังไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมายเพื่อรื้อออก หรือ มีการเจรจาเพื่อขุดลอกอ่างให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ ขณะที่วัดดังกล่าวเคยมีข้อพิพาทกับชาวบ้านในหมู่ 7 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง” นายมงคล กล่าว
นายยงยุทธ จุลานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากองพลทหารพัฒนาได้ทำการขุดลอกอ่างเก็บน้ำวังน้ำเขียวแล้ว ขณะที่ล่าสุดกรมชลประทานยังไม่มีงบประมาณดำเนินการขุดลอกอ่าง แต่ได้นำเครื่องจักรกลหนักขุดบ่อน้ำช่วยเหลือชาวบ้านเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในระยะสั้น สำหรับกรณีที่วัดแห่งหนึ่งก่อสร้างอาคารรุกล้ำในอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ที่กรมชลประทาน ขอใช้จากกรมป่าไม้ ชลประทานจังหวัดได้ทำหนังสือแจ้งให้สำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดทราบแล้ว เพื่อขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
นายวิวัฒน์ วันกุมภา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบยืนยันว่าวัดได้ขอใช้พื้นที่ สปก.ถูกต้องตามกฎหมาย โดยบางส่วนวัดรับมอบที่ดิน สปก. ที่ประชาชนมอบให้วัดใช้ประโยชน์ ส่วนปัญหาการก่อสร้างอาคารแปดเหลี่ยม ได้ทำหนังสือแจ้งกลับให้สำนักงานชลประทานนานหลายเดือน เพื่อให้มีการพิสูจน์แนวเขตพื้นที่อ่างเก็บน้ำวังน้ำเขียว โดยมีการรังวัดแนวเขตให้ชัดเจนระหว่างกรมป่าไม้ กรมชลประทาน และ สปก. รวมทั้งการพิสูจน์การใช้ประโยชน์ในอดีตจากการใช้ภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อยุติข้อพิพาทต่อเนื่องนานหลายปี แต่ทราบข้อมูลจากวัดว่าบางหน่วยงานไม่ต้องการให้พิสูจน์แนวเขต เพราะอาจมีปัญหาย้อนหลังจากการใช้งบขุดลอกอ่าง นอกเขตที่ขออนุญาตใช้พื้นที่ และที่ผ่านมาเจ้าอาวาสวัดได้ฟ้องร้องเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานรัฐฝ่ายปกครองหลายราย หลังจากสนธิกำลังเข้าไปตรวจสอบการครอบครองไม้แปรรูป ซึ่งต่อมาพบว่าวัดมีใบอนุญาตครอบครองถูกต้อง
