สธ.เผย กิจการที่จัดการ “ความเสี่ยงในระดับที่ยอมรับได้” มีความสำคัญมาก
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการเปิดกิจการ/กิจกรรมในระยะผ่อนปรนที่ 3
นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า มาตรการผ่อนปรนนั้น ยิ่งเข้าในระยะหลังมากกินขึ้น หากไม่สามารถจัดการกับความเสี่ยงได้ สถานที่หลายอย่างจะมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง แต่สำหรับกิจการและสถานที่บางแห่ง สามารถปรับปรุงระดับความเสี่ยงได้ค่อนข้างดี ดังนั้นประเด็นนี้จะอยู่ที่ว่าสถานที่แต่ละแห่งที่กำลังจะทยอยเปิดนั้น จะสามารถจัดการความเสี่ยงให้อยู่ในระดับต่ำที่สามารถยอมรับได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งจะต้องอาศัยหลายอย่าง เช่น ข้อกำหนด ความร่วมมือของเจ้าของสถานที่ และความร่วมมือของผู้เข้าใช้บริการ
“ความเสี่ยงเป็นเรื่องสำคัญแต่การเข้าไปจัดการกับความเสี่ยงได้มีความสำคัญมากพอๆกัน ดังนั้นในระยะต่อไปที่จะทยอยเปิดกิจการหรือสถานที่ให้บริการต่างๆที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง สิ่งที่จะต้องเข้าใจและจะต้องช่วยกันคือกิจการที่เปิดแล้วจะต้องไม่ลดระดับความเข้มข้นในการป้องกันโรค ในขณะเดียวกันสถานที่ที่เปิดใหม่จะต้องมีกระบวนการจัดการความเสี่ยงที่ดี ในขณะที่เรากำลังคิดว่าเราจะเปิดกิจการ ใด จึงอยากจะเรียนว่าไม่มีประเทศใดกลับมาเปิดประเทศ เปิดทุกกิจการ ทุกสถานที่ ในหลายประเทศยังมีข้อจำกัดและมีข้อกำหนดว่ายังไม่อนุญาตให้เปิดในเวลาใด ในระยะต่อๆไปประเทศไทยก็จะมีข้อกำหนดในเรื่องของการพิจารณาความเสี่ยง และการจัดการความเสี่ยงในระดับที่ให้ความเสี่ยงต่ำที่สุด ” นพ.ธนรักษ์ กล่าว
ทั้งนี้ นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องของการเปิดกิจการ/กิจกรรมในมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 ขอให้รอการตัดสินจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) และทาง สธ.ได้มีข้อเสนอขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว แต่จะต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย รวมถึงดูพฤติกรรมของคนไทยหลังจากมีมาตรการผ่อนปรนแล้วจะสามารถปฏิบัติตัวในการป้องกันโรคได้ดีอยู่หรือไม่ ซึ่งจะต้องค่อยๆ ดูกันไป
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์
