‘อุตตม’เปิดห้องประชุมก.คลังติวเข้ม 30 ส.ส.รับมืออภิปรายพ.ร.ก.3 ฉบับ 1.9 ล้านล.
เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ห้องประชุมวายุภักษ์ 4 กระทรวงการคลัง นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าพรรคประชารัฐ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ร่วมประชุมให้ความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.ก. 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาทรัฐบาลเสนอให้นำมาใช้เพื่อเยียวยา ฟื้นฟู และรับมือกับโควิด-19
ทั้งนี้มี ส.ส. พลังประชารัฐประมาณ 30 คน เช่น นายไผ่ ลิกค์ หรือ ไผ่ วันพอยท์ ส.ส. กำแพงเพชร นางสาววทันยา วงษ์โอภาสี หรือ มาดามเดียร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นำทีมส.ส.กทม.ทั้ง 5 คน นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ นำทีมสมาชิกส.ส.กลุ่มภาคเหนือ รวมถึง นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงพลังงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ โดยส่วนใหญ่เป็นส.ส.ที่มาในครั้งนี้อยู่ในสังกัดของนายอุตตม นายสนธิรัตน์ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แม้เจ้าตัวไม่มาร่วมประชุม แต่ส่งส.ส.ในสังกัดมาร่วมครั้งนี้ด้วย
สำหรับการประชุมดังกล่าวมีตัวแทนจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) สำนักงานบริหารหนี้สาธารณ(สบน.) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) มาร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท พ.ร.ก.ซอฟท์โลน 5 แสนล้านบาท พ.ร.ก.ตราสารหนี้เอกชน 4 แสนล้านบาท
นายอุตตม กล่าวภายหลังประชุมร่วม 2 ชั่วโมงว่า ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐประมาณ 30 คนแจ้งความจำนงว่าอยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับ พ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการอภิปรายในสภาฯ ระหว่าง 27-31 พฤษภาคมนี้ จึงได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลอย่างละเอียด และเปิดโอกาสให้ส.ส.ได้ซักถาม โดยสิ่งที่ส.ส.สนใจถามมากคือ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และพ.ร.ก.ซอฟท์โลน 5 แสนล้านบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย
นายอุตตมกล่าวต่อว่า ในส่วนตัวมีความพร้อมที่จะชี้แจงถึงพ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับ และไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการอภิปราย พร้อมจะอธิบายถึงข้อสงสัยต่างๆ ได้ ส่วนที่มีการวิจารณ์เรื่องเงินกู้ฟื้นฟู 4 แสนล้านบาทจะเป็นการตีเช็คเปล่านั้นยืนยันว่าการขอใช้งบประมาณนั้นมีกรอบที่ชัดเจน และทางสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) มีการประชุมชี้แจงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา และการใช้งบประมาณจัดซื้อจัดจ้าง จะใช้ระเบียบการเบิกจ่ายในงบประมารปกติ รวมถึงยังเปิดให้มีการตรวจสอบการใช้เงินกู้ ยืนยันว่าการดำเนินการเปิดเผย โปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยขณะนี้ยังไม่มีการขอใช้งบประมาณในส่วน 4 แสนล้านบาทเข้ามา เนื่องจากหน่วยงานต่างๆ กำลังจัดทำโครงการ
