ถกวันนี้”ปลดล็อกเฟส3-ลดเคอร์ฟิว” ก่อนเริ่ม 1 มิ.ย.-“เด็ก-คนชรา-ผู้พิการ”13ล้านคนเฮ ได้เยียวยาเพิ่ม 3 พัน

ถกวันนี้”ปลดล็อกเฟส3-ลดเคอร์ฟิว” ก่อนเริ่ม 1 มิ.ย.-“เด็ก-คนชรา-ผู้พิการ”13ล้านคนเฮ ได้เยียวยาเพิ่ม 3 พัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 27 พฤษภาคม พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 นัดประชุมเพื่อหาข้อสรุปว่ากิจกรรม/กิจการอะไรบ้างที่จะได้รับการผ่อนปรนให้เปิดดำเนินการได้ในเฟส 3 รวมถึงการปรับลดเวลาเคอร์ฟิวด้วยที่คาดว่าจะเริ่มตั้งแต่เวลา 24.00 น.-04.00 น. ก่อนจะเสนอที่ประชุม ศบค. วันที่ 29 พฤษภาคม เพื่อให้มีผลในวันที่ 1 มิถุนายน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศการขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน โดยมีเนื้อหาระบุว่า ตามที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 และได้ขยายระยะเวลาคราวที่ 1 ออกไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคมนั้น รัฐบาลได้ดำเนินบรรดามาตรการต่างๆ อันจำเป็นเพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยยังไม่สิ้นสุด โดยปรากฏข้อมูลว่าหลายประเทศยังคงมีการระบาด มีจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับสูง และเมื่อได้ผ่อนคลายหรือยกเลิกมาตรการควบคุมแล้วกลับพบการระบาดของโรคระลอกใหม่ในระดับรุนแรง ดังนั้นเพื่อให้การแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวของรัฐบาลเป็นไปโดยมีเอกภาพรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นสำคัญ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยในระหว่างนั้นรัฐบาลจะติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้การป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและกำหนดหรือผ่อนคลายมาตรการต่างๆตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงการดำรงชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนไปพร้อมกัน จึงให้ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีกคราวหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ขณะที่ การประชุมครม.เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบหลักการเยียวยากลุ่มเปราะบางคือเด็ก-ผู้สูงอายุ-คนพิการ คนละ 1,000 บาท/เดือน รวม 3 เดือน

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงข่าวว่า ครม.เห็นชอบในหลักการผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ตาม พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท มาตรการการช่วยเหลือเยียวยากลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)

ทั้งนี้ กลุ่มเปราะบางแบ่งเป็น 3 กลุ่มรวม 13 ล้านคน ได้แก่ 1.กลุ่มเด็กแรกเกิดถึง 6 ปี จากครัวเรือนที่มีความยากจน 1.45 ล้านคน 2.กลุ่มผู้สูงอายุ 9.66 ล้านคน และ 3.กลุ่มคนพิการ 2 ล้านคน โดยจ่ายเงินเยียวยาคนละ 1,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน รวม 3,000 บาท ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม แต่ขณะนี้ใกล้จะหมดเดือนพฤษภาคมแล้ว จึงจะเริ่มจ่ายในเดือนมิถุนายนรวม 2,000 บาท และเดือนกรกฎาคม อีก 1,000 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายเงินเยียวยาเพิ่มจากเงินอุดหนุนปกติที่ทั้ง 3 กลุ่มได้รับอยู่แล้ว คือเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยความพิการ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image