“วีระ”แฉวิชามารอุ้ม “ปารีณา” ยื้อไม่ส่งฟ้องคดีทั้งที่สำนวนเสร็จแล้ว
“วีระ”แฉวิชามารอุ้ม “ปารีณา” ยื้อไม่ส่งฟ้องคดีทั้งที่สำนวนเสร็จแล้ว คณะพนักงานสอบสวน 25 คนเห็นต่าง 3 แนวทาง อืดจนเปิดสมัยประชุมสภามีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองรอยาวอีก 120 วัน ยันลุยตรวจสอบต่อลงพื้นที่นำชี้ทวี ไกรคุปต์รุกป่าสวนผึ้ง 4 มิ.ย.
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบที่ดินฟาร์มไก่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตนได้เข้าติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ซึ่งพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนคดียืนยันว่าพิจารณาสำนวนคดีเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังไม่มีการส่งฟ้องต่ออัยการ
นายวีระ กล่าวว่า ทั้งนี้คดีดังกล่าวมีการตั้งคณะทำงานพิจารณาสำนวนคดีขึ้นมาจำนวน 25 คน ซึ่งคณะทำงานนี้มีความเห็นแย้งกันออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 มีความเห็นว่าการพิจารณาสำนวนคดีเสร็จสิ้นแล้ว ให้ส่งฟ้องได้เลย กลุ่มที่ 2 เห็นว่ายังส่งฟ้องไม่ได้ โดยอ้างว่า ป.ป.ช. ตั้งคณะทำงานไต่สวนคดีขึ้นมาแล้ว ดังนั้นจะต้องส่งสำนวนไปที่ป.ป.ช. ทั้งหมด โดยกลุ่มนี้มองว่า ป.ป.ช.มีอำนาจเหนือตำรวจ จึงต้องส่งให้ ป.ป.ช. ดำเนินการ ถ้า ป.ป.ช.ไม่ดำเนินการเรื่องใดก็ค่อยให้ส่งกลับมา และกลุ่มที่ 3 เห็นว่าเพื่อเป็นการเพลย์เซฟเจ้าหน้าที่ไม่ให้มีความผิด ก็ให้ส่งไปยัง พล.อ.จักร์ทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นผู้พิจารณาว่าจะส่งสำนวนไปยังอัยการ หรือ ส่งไปยัง ป.ป.ช.
นายวีระ กล่าวว่า ตนตั้งคำถามว่าเรื่องนี้จะเอาอย่างไร เชื่อว่ามีธงและมีคนสั่งการในเรื่องนี้แน่นอน ทั้งที่คดีลักษณะนี้หากเจ้าหน้าที่ป่าไม้สรุปว่ามีความผิดและแจ้งความแล้วก็คือจบ เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ดำเนินการได้เลย ไม่ใช่เรื่องของหน่วยงานอื่น อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เมื่อ 3 อาทิตย์ที่แล้ว ตำรวจเจ้าของสำนวนแจ้งกับตนว่าจะดำเนินการส่งฟ้องก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม ที่จะมีการเปิดสมัยประชุมสภา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในเรื่อง น.ส.ปารีณามีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครอง แต่ก็มีการเลื่อนและอาจจะยาวไปอีก 120 วัน จนปิดสมัยประชุมสภา ซึ่งตำรวจอ้างกับตนว่าหากมีการส่งฟ้องในช่วงเปิดประชุมสภาแล้ว ก็ทำหนังสือไปขอนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ให้ส่งตัวน.ส.ปารีณามาก็ได้ แล้วตำรวจไปรู้ใจนายชวนได้อย่างไร ว่าจะส่งตัวน.ส.ปารีณาหรือไม่
นายวีระ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามหากส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. ก็ต้องรอการพิจารณาไปอีก 180 วัน ซึ่งเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นการถ่วงเวลา มีการใช้วิชามารเพื่ออุ้ม น.ส.ปารีณา อย่างเต็มที่ โดยผู้รู้กฎหมายที่พยายามหาช่องว่างทางกฎหมายต่างๆให้ ตั้งแต่การตั้งพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณ์กุล เข้ามาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี จนมีการดึงคดีเข้ามาที่ บก.ปทส. ทั้งที่ พล.อ.ศรีวราห์ไม่ได้มีหน้าที่และอำนาจในการสั่งการ เพราะเป็นอำนาจของ ผบ.ตร. และมีการตั้งคณะทำงานสอบสวนขึ้นมาถึง 25 คน ทั้งที่เป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายป่าไม้ที่ไม่ได้มีความซับซ้อน ใช้ตำรวจเจ้าของสำนวนเพียงคนเดียวก็พอ ซึ่งหากเป็นชาวบ้านทั่วไปนั้นถูกดำเนินคดีในทันทีแล้ว จึงยืนยันว่าจะติดตามเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด
นายวีระ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในวันที่ 4 มิถุนายน นี้ เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดหมายตนไปนำชี้ในคดีการบุกรุกพื้นที่ป่า อ.จอมบึง ของนายทวี ไกรคุปต์ บิดา น.ส.ปารีณา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยไปนำชี้มาแล้ว แต่เมื่อเรียกมาอีกตนก็จะไปตามนัดหมาย
ด้านนายธวัชชัย ลัดกรูด ผอ.สำนักจัดการทรัยากรป่าไม้ที่ 6(อุดรธานี) ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบที่ดินนางปารีณา ไกรคุปต์ กล่าวว่า ขณะนี้ กรมป่าไม้ กำลัวตรวจสอบที่ดินแปลงบริเวณใกล้เคียงกับที่ดินของนายทวี ไกรคุปต์ พ่อของนางปารีณา ที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี กว่า 100 ไร่ ถ้าหากพบการทำผิดจะมีการจับกุมและตรวจยึดต่อไป โดยจะมีการประชุมกับป่าไม้จังหวัดราชบุรีในสัปดาห์หน้า
