เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามควบคุมตัวนายอรรฆเดช ขันน้อย อายุ 35 ผู้ต้องหากรรโชกทรัพย์ เจ้าอาวาสวัดกมลาวาส ต.บ้านดู่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองบังคับการปราบปราม ภายหลังจับกุมตัวได้ที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ในต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
โดยระหว่างควบคุมตัวมาถึง นายอรรฆเดช ผู้ต้องหาได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ ว่า พระโกหกว่าไม่ได้ดื่มสุรา ซึ่งตนเองมีพยานหลักฐานเป็นคลิปเสียง ที่พระยอมรับกับตนเองว่าดื่มสุราจริง พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้ขู่กรรโชกทรัพย์ตามที่มีการกล่าวอ้าง และพร้อมมอบหลักฐานให้สื่อมวลชน
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่าน โดยนายอรรฆเดช ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และบุกเข้าไปภายในวัดกมลาวาส ในตำบลบ้านดู่ อำเภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมอ้างตัวว่าเป็น ผู้กองณัฐ สังกัดตำรวจกองปราบปราม จากนั้น ก็พูดจาข่มขู่กรรโชกเรียกเอาเงินจากพระอธิการศักดิ์ วิสุทธสีโล อายุ 63 ปี และพยามยามยัดข้อกล่าวหาว่า เจ้าอาวาสขับรถเร็ว ดื่มสุรา โกงเงินวัด และขับรถชนคนบาดเจ็บ โดยเรียกเงินจำนวน 250,000 บาท และมีการใช้ปืนข่มขู่ทั้งที่เจ้าอาวาสได้ปฏิเสธ และยืนยันว่าไม่เคยกระทำการดังกล่าวตามที่กล่าวอ้าง แต่ชายรายนี้ก็ยังข่มขู่ ทำให้ญาติเจ้าอาวาส ต้องยอมถอดสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท และเงินสดอีก 5,000 บาทไปให้ เพราะกลัวความไม่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังคุมตัวมาถึงกองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวผู้ต้องหา เข้าห้องสอบปากคำทันที ส่วนรายละเอียดการจับกุมนั้นยังไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างใด
