สื่อมะกันรายงานเกิดความผิดพลาดหลายครั้งในแล็ปสหรัฐทดลองเชื้อไวรัส
“USA Today” รายงานว่า ตั้งแต่ปี 2546 มีความผิดพลาด ที่เกิดขึ้นมากกว่า 100 ครั้งในห้องปฏิบัติการสหรัฐ ที่พนักงานสัมผัสกับจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย ทำให้อาจจะติดเชื้อไวรัสร้ายแรง และเป็นสาเหตุหลักทำให้ไวรัสแพร่กระจายไปยังชุมชนและเกิดการแพร่ระบาดแม้กระทั่งเมื่อศูนย์วิจัยเกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงที่สุด หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลกลางเก็บ ราวชื่อของพวกเขาไว้เป็นความลับ ไม่มีรายชื่อของห้องปฏิบัติการเหล่านี้ ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการที่อันตรายที่สุด และหน่วยงานด้านสุขภาพของรัฐไม่ได้จำกัดขอบเขตการวิจัยของพวกเขา แม้แต่รัฐบาลก็ไม่รู้ว่าห้องปฏิบัติการเหล่านั้นอยู่ที่ไหน
เดวิด เรลแมน ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาจาก Stanford University ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลเกี่ยวกับความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการและอดีตประธานสมาคมโรคติดเชื้อแห่งอเมริกา เปิดเผยว่า ความผิดพลาดที่เกิดจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ร้ายแรงที่ผลิตในห้องปฏิบัติการ สายพันธุ์เหล่านี้แพร่กระจายได้ง่ายกว่าไวรัสในธรรมชาติ
นักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโกที่มีปัญหาด้านสุขภาพ เสียชีวิตจากการติดเชื้อที่มีเชื้อแบคทีเรียก่อโรคที่อ่อนแอลง ในปี 2012 Richard Din นักวิจัยอายุ 25 ปีเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อระหว่างการวิจัยวัคซีนที่เกี่ยวข้องกับแบคทีเรีย Menissitides menissitides Neisseria ที่ห้องปฏิบัติการในศูนย์การแพทย์ VA ของซานฟรานซิสโก การเสียชีวิตของทั้งคู่เกี่ยวข้องกับการวิจัยในห้องปฏิบัติการความปลอดภัยทางชีวภาพระดับ 2 ซึ่งมีการพิจารณาว่าเชื้อโรคมีอันตรายน้อยกว่าการทำงานในห้องปฏิบัติการกักกันสูง
GAO ซึ่งเป็นหน่วยสืบสวนของสภาคองเกรสได้ออกคำเตือนซ้ำตั้งแต่ปี 2007 ว่าการเพิ่มจำนวนห้องปฏิบัติการ BSL-3 และ BSL-4 ได้เพิ่มความเสี่ยงโดยรวมของการระบาดไวรัสแบคทีเรียหรือสารพิษ
เอกสารที่ “USA Today”ได้รับ แสดงให้เห็นว่าการที่ระบบไฟฟ้าขัดข้องของห้องปฏิบัติการ BSL-3 ของมหาวิทยาลัย Texas A & M ทำให้ห้องปฏิบัติการสูญเสียแรงดันลบหลายครั้งในช่วงปี 2013 ซึ่งเป็นหน้าที่ความปลอดภัยที่สำคัญที่ใช้ในการควบคุมเชื้อโรคในห้องปฏิบัติการ ห้องปฏิบัติการ CDC ในแอตแลนต้าประสบปัญหาการไหลเวียนของอากาศเป็นเวลาหลายปี ตามรายงาน “USA Today” ตั้งแต่ปี 2003 CDC ของสหรัฐและหน่วยงานกำกับดูแลของกรมวิชาการเกษตรของสหรัฐได้ทดสอบห้องปฏิบัติการมากกว่า 100 ห้อง เพื่อพิสูจน์ว่ามีความข้อบกพร่องด้านความปลอดภัย ความกังวลด้านความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการทางทหารที่โดดเด่น ทำให้รัฐบาลต้องปิดการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับจุลินทรีย์อันตรายเช่นไวรัสอีโบลา
สถาบันเวชศาสตร์โรคติดเชื้อกองทัพสหรัฐในฟอร์ตดีเร็ก รัฐแมรี่แลนด์แถลงว่า “การวิจัยกำลังถูกระงับ” โฆษก Caree Vander Linden กล่าว
งานวิจัยที่ถูกระงับนั้นเกี่ยวข้องกับสารพิษบางชนิดรวมถึงแบคทีเรียที่รัฐบาลระบุว่า “อาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสุขภาพของประชาชน สัตว์และพืชหรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์และพืช” มีแบคทีเรียที่เลือกและสารพิษที่เลือกสรรได้ 67 อย่าง เช่น สิ่งที่ก่อให้เกิดไวรัสอีโบลา ไข้ทรพิษ โรคแอนแทรกซ์และโรคระบาดและซินที่เป็นพิษ ซึ่งผู้ก่อการร้ายสามารถใช้แบคทีเรียที่เลือกเป็นอาวุธได้
ปัญหาดังกล่าวย้อนหลังไปถึงเดือนพฤษภาคม 2561 เมื่อพายุกระหน่ำ ทำให้น้ำท่วมและทำลายโรงฆ่าเชื้อไอน้ำที่มีอายุหลายสิบปีซึ่งสถาบันใช้เพื่อบำบัดน้ำเสียจากห้องปฏิบัติการ ความเสียหาย ทำให้ต้องหยุดการวิจัยเป็นเวลาหลายเดือนจนกระทั่งสถาบันพัฒนาระบบชำระล้างใหม่ด้วยสารเคมี
