อภ.เดินหน้า “วัคซีนโควิด-19” ปักหมุดโรงงานผลิต จ.สระบุรี

อภ.เดินหน้า “วัคซีนโควิด-19” ปักหมุดโรงงานผลิต จ.สระบุรี

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม(อภ.) เผยว่า ในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด-19 ภารกิจของ อภ. คือการผลิต จัดหา ยา เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ป้องกัน ที่สำคัญคือการร่วมมือกับหลายหน่วยงานเพื่อการวิจัยพัฒนาวัคซีนต้นแบบในหลายรูปแบบ ได้แก่ การให้ทุนสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต้นแบบ 2 ชนิด คือ 1.ชนิดวัคซีนอนุภาคเหมือนไวรัส (Virus-like particle) พัฒนาโดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล และ 2.ชนิดวัคซีนโปรตีนซับยูนิต (Subunit vaccine) พัฒนาโดยคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยวัคซีนทั้ง 2 ชนิด นี้ ใช้เทคโนโลยีการใช้เซลล์เพาะเลี้ยง ซึ่งหากวัคซีนต้นแบบนี้สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในสัตว์ทดลองได้  อภ.จะรับถ่ายทอดเทคโนโลยีมาเพื่อพัฒนาต่อในการขยายขนาดการผลิตเป็นวัคซีนตามมาตรฐาน GMP สำหรับใช้ในการทดสอบทางคลินิกต่อไป

“นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC) เพื่อวิจัยพัฒนาวัคซีนชนิดเชื้อตายจากการตัดต่อยีนของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ SARS-CoV2 เข้าไปในยีนของไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Inactivated influenza virus-based COVID-19 vaccine) เพื่อเป็นเชื้อไวรัสตั้งต้นหากสำเร็จจะนำเชื้อไวรัสตั้งต้นนี้ผลิตเป็นวัคซีนโดยใช้เทคโนโลยีการใช้ไข่ไก่ฟักของอภ.ที่ใช้ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่อยู่เดิม เพื่อนำไปใช้ในการศึกษาทางคลินิกต่อไป โดยคาดว่าการวิจัยพัฒนาวัคซีนทั้ง 3 ชนิด จะทราบผลเบื้องต้นในปลายปี 2563” นพ.วิฑูรย์ กล่าว

นพ.วิฑูรย์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม คณะผู้บริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ พร้อมด้วย คณะผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) สถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประธานมูลนิธิไอเอสพีอี (ประเทศไทย) หรือ International Society for Pharmaceutical Engineering (ISPE Thailand) ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (World Health Organization Regional Office for South-East Asia (SEARO) และผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านวัคซีน ได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าและความพร้อมในการผลิตวัคซีนโควิดสำหรับใช้ในประเทศ ที่โรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ของ อภ. ที่ จ.สระบุรี จากการรับฟังข้อมูลและการดูพื้นที่ของโรงงานผลิตวัคซีนฯ คณะผู้บริหารสถาบันวัคซีนฯและคณะผู้เชี่ยวชาญต่างมีความเห็นว่าอภ.มีปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่มีศักยภาพและมีความพร้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการบรรจุวัคซีนโควิด – 19 ที่สามารถทำในระดับอุตสาหกรรมได้ทันที

“อภ.มีความพร้อมในการผลิตวัคซีนโควิด– 19 เรามีโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นทุนเดิมที่มีศักยภาพและปัจจัยพื้นฐานหลายๆด้าน สามารถนำมาประยุกต์และก่อสร้างต่อยอดเพิ่มเติมเป็นโรงงานสำหรับผลิตวัคซีนโควิด– 19 ได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังมีบุคลากรที่มีองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ด้านการวิจัย พัฒนาวัคซีน มีประสบการณ์การผลิตวัคซีนหลายชนิด มีเครื่องมือ เครื่องจักรที่ทันสมัย รองรับการผลิตทั้งในระดับห้องปฏิบัติการและในระดับอุตสาหกรรม ได้ในหลายรูปแบบตามผลสำเร็จของการวิจัย และพร้อมร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งยังรอผลการวิจัยว่าจะได้วัคซีนต้นแบบชนิดไหนที่เหมาะสมที่สุดต่อการผลิตในระดับอุตสาหกรรม” นพ.วิฑูรย์ กล่าว

Advertisement

 

นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image