โอดบาทแข็ง-เข้าไม่ถึงซอฟต์โลน ซ้ำเติมธุรกิจช่วงโควิด ผู้ส่งออกจี้ธปท.พยุง34บาทเหมาะสม

นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า ปัจจัยที่เอกชนกังวลมากที่สุดในขณะนี้ คือ ค่าบาทแข็งค่าต่อเนื่องและแข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่ง ทำให้แข่งขันด้านราคาได้ยากขึ้น และธุรกิจเอสเอ็มอีประสบปัญหาการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟต์โลน)ได้น้อยมาก สรท.จึงเตรียมหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ เพื่อขอให้ธปท.รักษาเสถียรภาพค่าบาท และเห็นว่าค่าบาทที่แข่งขันในตลาดโลกคือ 34 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันอยู่ที่ 31-32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ส่วนสินเชื่อจะหารือว่าจะทำอย่างไรให้เข้าถึงวงเงิน 5 แสนล้านบาท

นางสาวกัณญภัค กล่าวว่า สรท.ยังคงคาดการณ์การส่งออกไทยปี 2563 ติดลบ 8% บนปัจจัยความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงปีหน้าได้ และค่าเงินบาทเริ่มมีแนวโน้มกลับมาแข็งค่าที่กระทบต่อความสามารถในการแข่งขันด้านราคาโลก รวมถึงราคาน้ำมันเริ่มมีแนวโน้มขาขึ้น อาจส่งผลต่อต้นทุนของผู้ส่งออกเพิ่มขึ้น ปัจจัยความขัดแย้งของสหรัฐและจีนเป็นการปะทุสงครามการค้ารอบใหม่ และปัจจัยใหม่เรื่องความวุ่นวายทางการเมืองของสหรัฐและในไทย อาจมีผลทางจิตวิทยาต่อการค้าและส่งออก

ส่วนปัจจัยบวกต่อส่งออก คือ การแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ความต้องการกลุ่มอาหารและเกษตรเพิ่มขึ้นมาก เพื่อดำรงชีวิตในช่วงล็อกดาวน์ของหลายประเทศ และการเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ประเทศทำให้การส่งสินค้าเข้าได้สะดวกขึ้น สำหรับข้อเสนอที่เอกชนขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ คือ เร่งใช้งบประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท และงบประมาณเพื่อการลงทุน โดยเฉพาะการปรับตัวสู่ Digital disruption เอกชนสนับสนุนให้ไทยเข้าเจรจาในกรอบซีพีทีพีพี  รัฐบาลเร่งหารือประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มซีแอลเอ็มวี เพื่อเพิ่มการค้าชายแดน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image