ดัชเชสเมแกน บอก “ชีวิตจอร์จ ฟลอยด์ มีความสำคัญ” พร้อมแชร์ประสบการณ์เคยเห็นการจราจลในแอลเอ

(รอยเตอร์)

เว็บยาฮู รายงานว่า ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ หรือ เมแกน มาร์เคิล พระชายาเจ้าชายแฮร์รี ทรงตรัสถึง ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ในสหรัฐอเมริกา และว่า ชีวิตของฟลอยด์มีความสำคัญ

ข่าวว่า ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ทรงตรัสถึงเรื่องนี้ ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ผ่านวิดีโอ ในพิธีจบการศึกษาของนักเรียนโรงเรียน Immaculate Heart High School ในนครลอสแองเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าที่ดัชเชสเมแกนเคยศึกษา และตรัสถึงเหตุกการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นว่าสร้างความเสียหายมากมาย พร้อมทั้งเรียกร้องให้คนหนุ่มสาว และนักเรียนของโรงเรียนดังกล่าว จงช่วยกันสร้างสังคมใหม่

(รอยเตอร์)

ทั้งนี้ การเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวในเมืองมินนีอาโปลิส รัฐมินเนโซตา สหรัฐอเมริกา ที่เข้าจับกุมตัว และใช้เข่ากดที่ลำคอของฟลอยด์จนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตในที่สุดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดการประท้วงใหญ่ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติในหลายเมือง และบางเมืองการประท้วงบานปลายกลายเป็นความรุนแรง ทำให้ต้องมีการประกาศเคอร์ฟิว

ในคลิปวิดีโอดังกล่าว ดัชเชสเมแกน ยังตรัสถึงชาวแอฟริกัน-อเมริกันคนอื่นๆ ที่เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิตในสหรัฐอเมริกาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาด้วย

Advertisement

ดัชเชสทรงตรัสต่อนักเรียนโรงเรียนหญิงล้วนแห่งนี้ว่า “ฉันไม่แน่ใจว่า ฉันสามารถจะพูดอะไรแก่พวกคุณ ฉันอยากพูดในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ฉันก็กลัวจริงๆว่าฉันจะพูดได้ไม่ตรง หรือมันอาจจะถูกหยิบไปแปลความแยกเป็นส่วนๆ แต่ฉันก็เชื่อว่า ต้องเป็นสิ่งที่ผิดแน่ ถ้าฉันไม่พูดอะไรเลย เพราะชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ก็มีความหมาย ความสำคัญ ชีวิตของ บรีแอนนา เทย์เลอร์ ก็มีความสำคัญ ชีวิตของฟิแลนโด แคสทิล ก็มีความสำคัญ ชีวิตของ ทามีร์ ไรซ์ ก็มีความสำคัญ และชีวิตของคนอีกมากมายที่เรารู้จักชื่อของพวกเขา หรือเราไม่รู้จักชื่อของพวกเขา ”

ในคลิปวิดีโอดังกล่าว ซึ่งถูกรายงานโดยนิตยสาร Essence นิตยสารสตรีชาวแอฟริกัน-อเมริกัน เป็นเจ้าแรก กล่าวว่า ดัชเชสเมแกน ยังเล่าถึงประสบการณ์ตอนเด็กที่เคยเห็นการจราจลในลอสแองเจลิสด้วยว่า ” ตอนนั้นฉันอายุ 11 หรือ 12 ปี และเกิดจราจลในแอลเอ ซึ่งเกิดจากการกระทำเหยียดเชื้อชาติแบบไร้เหตุผล ฉันยังจำได้ถึงการมีเคอร์ฟิว ยังจำได้ที่ฉันต้องรีบกลับบ้าน และระหว่างนั่งรถกลับบ้าน ฉันก็เห็นขี้เถ้าปลิวเต็มท้องฟ้า ได้กลิ่นควันไฟ และเห็นควันไฟพวยพุ่งออกมาจากตึกอาคารต่างๆ ฉันยังจำได้ว่าเห็นผู้ชายหลายคนอยู่บนท้ายรถแวน ถือปืน และปืนไรเฟิล ฉันยังจำได้ว่าถูกดึงตัวเข้าไปในบ้าน และเห็นต้นไม้ถูกเผาเป็นตอดำ และความทรงจำเหล่านั้น มันไม่เคยเลือนหายไปไหน “

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image