‘จาตุรนต์’ ชี้ศึก พปชร.ซ้ำเติม ปท. ห่วงปรับ ครม.ยิ่งทำให้ รบ.ล้มเหลวเลวร้ายมากขึ้น

“จาตุรนต์” ชี้ศึก พปชร.ซ้ำเติม ปท. ห่วงปรับ ครม.ยิ่งทำให้ รบ.ล้มเหลวเลวร้ายมากขึ้น

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงใน พปชร.ว่าการแก่งแย่งอำนาจในพรรคพลังประชารัฐซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่ประเทศกำลังตกอยู่ในวิกฤตร้ายแรงเช่นทุกวันนี้ย่อมเป็นการทำร้ายความรู้สึกของประชาชนทั่วประเทศเป็นธรรมดา แต่ที่เลวร้ายว่านั้นก็คือการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นนี้มีความเป็นได้สูงที่จะมีผลกระทบต่อการเมืองและเศรษฐกิจ ซ้ำเติมความบอบช้ำของประเทศและจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนยิ่งกว่าที่เป็นอยู่อีกมาก

เมื่อตอนที่จะก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ กลุ่มคนใน คสช.และรัฐบาลที่วางแผนเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการอาจจะยังระวังไม่ให้ภาพพจน์ดูเลวร้ายจนเกินไปด้วยการใช้นักวิชาการนักบริหารบางคนมาเป็นผู้ก่อตั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างพรรคแบบพรรคสามัคคีธรรมในอดีต ที่ต่อมาถูกประชาชนต่อต้านคัดค้านจนต้องล่มสลายไปในเวลาอันรวดเร็ว

แต่ในโอกาสครบรอบ 6 ปีของการรัฐประหารโดย คสช. ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอันเป็นเป็นการย้อนยุค ทำให้พรรคการเมืองนี้กลายเป็นพรรคที่มีการรวมเป็นเนื้อเดียวกันอย่างสมบูรณ์ ระหว่างนักการเมืองประเภทเสือสิงห์กระทิงแรดกับผู้ที่ได้อำนาจมาจากการทำรัฐประหาร เป็นการสมคบกันเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการชัดเจนยิ่งกว่าพรรคสามัคคีธรรมในอดีตเสียอีก สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่ คสช.และพวกอวดอ้างมาแต่แรกว่าจะปฏิรูปการเมือง จะสร้างระบบที่พรรคการเมืองต้องเป็นที่รวมของคนที่มีอุดมการณ์ตรงกันไม่ใช่พวกที่แสวงหาอำนาจผลประโยชน์แต่เพียงอย่างเดียว

การเปลี่ยนแปลงใน พปชร.ครั้งนี้ทำให้พรรคการเมืองอื่นๆ จะต้องประเมินกันใหม่ว่ากำลังร่วมมือหรือแข่งขันอยู่กับพรรคการเมืองแบบไหนและจะมีผลต่อบ้านเมืองอย่างไร

Advertisement

หากมีการเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารตามที่เป็นข่าวจริง ก็เป็นไปได้สูงที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีในตำแหน่งสำคัญซึ่งจะทำให้รัฐมนตรีจาก พปชร.หลายคนที่เป็นสายนักวิชาการและนักบริหารจะถูกแทนที่โดยนักการเมืองที่ไม่มีความรู้ความสามารถในการแก้ปัญหาประเทศ และเมื่อการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการเปลี่ยนดุลอำนาจใน พปชร. นายกฯจะหาคนนอกมาเป็นรัฐมนตรีในโควต้านายกฯก็ไม่ได้เพราะไม่มีมาแต่ต้น ที่ผ่านมารัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของรัฐบาลโดยเฉพาะ พปชร.ก็ล้มเหลวในการแก้ปัญหาอย่างร้ายแรงอยู่แล้ว หากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น การแก้ปัญหาเศรษฐกิจย่อมจะยิ่งล้มเหลวเลวร้ายลงไปอีกอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ยิ่งการเปลี่ยนแปลงนี้มาเกิดในช่วงที่จะมีการใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลด้วยแล้ว ยิ่งมีแต่คนเป็นห่วงว่าการปรับ ครม.ที่จะตามมาจะเป็นไปเพื่อการไปแย่งชิงกอบโกยผลประโยชน์เสวยสุขบนความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน

การปรับ ครม.ที่เกิดขึ้นจากการเอาชนะกันด้วยทุนและอำนาจ ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน นอกจากจะทำให้รัฐบาลนี้ล้มเหลวในการแก้ปัญหาประเทศมากยิ่งขึ้น ที่น่าเป็นห่วงคือจะเกิดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นหนักยิ่งขึ้นโดยไม่มีใครสามารถสกัดกั้นขัดขวางได้ การแก่งแย่งอำนาจครั้งนี้กำลังจะทำให้ พปชร.กลายเป็นพรรคการเมืองที่มีหัวหน้าพรรคที่สนิทสนมใกล้ชิดกับบุคคลสำคัญของ ป.ป.ช. มากกว่าพรรคการเมืองอื่นใด อย่าลืมว่าเมื่อเร็วๆ นี้ ป.ป.ช.ก็เพิ่งพิสูจน์ให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าความสนิทสนมผูกพันกันนั้นสามารถทำให้เกิดบรรทัดฐานใหม่ๆ เกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นจากกรณีนาฬิกาหรูที่จบลงด้วยการกลายเป็นการ “ยืมใช้คงรูป” ที่ทำให้ประชาชนทั้งประเทศสิ้นหวังต่อ ป.ป.ช.มาแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image