‘โตโยต้า’ งัดทีเด็ด ‘รีโว่-ฟอร์จูนเนอร์’ ใหม่ : โดย นายพล

‘โตโยต้า’ งัดทีเด็ด ‘รีโว่-ฟอร์จูนเนอร์’ ใหม่ : โดย นายพล

ตลาดรถกระบะเมืองไทยสะเทือนเลื่อนลั่นอีกครั้ง เมื่อ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ประกาศเปิดตัวรถกระบะ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ และ รถกระบะดัดแปลง (พีพีซี) ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ หลายคนจะบอกว่าเป็นไมเนอร์เชนจ์ บิ๊กไมเนอร์เชนจ์ แต่ไม่ใช่รุ่นใหม่ ก็สุดแล้วแต่

แต่สำหรับรีโว่และฟอร์จูนเนอร์รุ่นนี้ ต้องบอกว่าเป็นการปฏิวัติหรือปฏิรูปรถกระบะของโตโยต้าครั้งสำคัญ เพราะโตโยต้าเริ่มสำรวจและเก็บข้อมูลพฤติกรรมลูกค้ามาประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา

ไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้นที่โตโยต้าเก็บข้อมูล แต่ยังได้สำรวจความต้องการลูกค้าหลายประเทศหลายทวีป ทั้งอเมริกาใต้ แอฟริกา ยุโรป เอเชีย ในที่สุดก็ได้คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าคนไทย เพราะนำทุกความต้องการมาสรุปอยู่ในทั้งรีโว่และฟอร์จูนเนอร์ใหม่

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้จัดให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับกลุ่มแรกเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนรีโว่และฟอร์จูนเนอร์ใหม่จะเริ่มทยอยเข้าโชว์รูมทั่วประเทศวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา

Advertisement

ทีมงานผู้ออกแบบรีโว่และฟอร์จูนเนอร์เล่าว่า ได้สำรวจพฤติกรรมลูกค้าอย่างละเอียด ได้ข้อสรุปเหมือนกับที่พวกเราทราบกันดีก็คือ คนไทยชอบใช้รถปิกอัพทั้งเพื่อทำงานและใช้ส่วนตัว จึงเป็นที่มาของรีโว่และฟอร์จูนเนอร์รุ่นนี้

ดร.จุลชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค รับผิดชอบโปรเจ็กต์รีโว่และฟอร์จูนเนอร์ใหม่นี้เล่าว่า โตโยต้าสำรวจลูกค้าจำนวนมากหลายประเทศ โดยเฉพาะคนไทย

Advertisement

จึงเป็นที่มาของการออกแบบรีโว่ สำหรับรุ่นสแตนดาร์ดกับรอคโค่ที่นำมาทดลองขับ มีที่มาจากสาเหตุเพราะคนไทยชอบกระบะทั้งแบบใช้งานทั่วไปและผาดโผน หน้าตาจึงเน้นบึกบึน เน้นกระจังหน้ากว้างและใหญ่ขึ้น เป็นเทรนด์การออกแบบรถกระบะในอนาคต และอยากให้คนรู้สึกเป็นเรื่องน่าท้าทาย อยากลองสิ่งใหม่ๆ

ด้านในสิ่งที่เห็นชัดคือเปลี่ยนมาตรวัดทั้งในรุ่นสแตนดาร์ดและรุ่นรอคโค่

ส่วนฟอร์จูนเนอร์แนวคิดคล้ายกับรีโว่ คนไทยใช้รถหลากหลาย ฟอร์จูนเนอร์รุ่นสแตนดาร์ดจึงยังคงเน้นทั้งความหรูหราและให้ดูสุขุมต่อยอดจากเดิมตามพฤติกรรมลูกค้าฟอร์จูนเนอร์

ส่วนรุ่นพิเศษเลเจนเดอร์จะเน้นหรูหราเฉียบคมจากการตกแต่ง

สำหรับสมรรถนะการขับขี่ จากข้อมูลการสำรวจลูกค้าคนไทยใช้งานรถกระบะใช้ส่วนตัวจึงคาดหวังความนุ่มนวลมากขึ้น

จึงเป็นที่มาของการปรับจูนช่วงล่าง โดยลดน้ำหนัก ใช้แหนบทำจากวัสดุไฮเทนไซน้ำหนักเบาแต่รับแรงกดได้เท่าเดิม แถมยังดูดซับการสั่นสะเทือนได้ดีขึ้นจากการปรับช่วงรอยต่อรอยเชื่อมต่างๆ ให้ขยับน้อยที่สุด ทำให้ช่วยลดได้ทั้งเสียงช่วงล่างในการขับเส้นทางออฟโรด และความนุ่มนวลในเส้นทางขรุขระ

การพัฒนาอีกด้านของรีโว่และฟอร์จูนเนอร์ก็คือ สมรรถนะเครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ ในรุ่น 2.4 ลิตร และ รุ่น 2.8 ลิตร นอกจากเน้นประหยัดเพื่อสภาพการใช้งานที่เหมาะสมในฐานะรถกระบะทั่วไปแล้ว ยังเพิ่มพละกำลัง จากเครื่องยนต์จีดีซุปเปอร์เพาเวอร์ พละกำลัง 204 แรงม้า แรงบิดมาถึง 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600-1,800 รอบต่อนาที มีการปรับเทอร์โบให้ใหญ่ขึ้นแหวนรองลูกสูบเคลือบสารหล่อลื่นให้ไหลลื่นขึ้น หัวฉีดน้ำมันมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปรับความสมดุลของเพลา ช่วยลดแรงเสียดทาน นั่นคือคำตอบว่าทำไมรีโว่และฟอร์จูนเนอร์ใหม่จึงมีความนุ่มนวลและเงียบดีขึ้นผิดหูผิดตา

นอกจากนี้เกียร์อัตโนมัติทำงานผสานร่วมกับคันเร่งที่วางระบบไว้ให้มีความแม่นยำเมื่อกดคันเร่งปั๊บจะตอบสนองทันทีให้อารมณ์แตกต่างจากรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับพวงมาลัย มาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยผ่อนแรงตามความเร็วรถ เมื่อความเร็วต่ำช่วยผ่อนแรงให้เบา แต่ความเร็วสูงจะหนักแน่นขึ้น

ในส่วนฟอร์จูนเนอร์มีโหมดสปอร์ตเพิ่มมาให้ สำหรับการขับขี่ทางไกล พวกที่รีบ ใช้ความเร็วสูง โหมดนี้จะช่วยให้การทรงตัวรถกระชับขึ้น

ด้านสมรรถนะออฟโรด มีการปรับหลายจุด เช่น ปรับรอบเดินเบา ปรับการตอบสนองคันเร่ง ปรับเบรกควบคุมแต่ละล้อ ปรับการทำงานพวงมาลัยเพาเวอร์แบบวีเอฟซีในโหมดอฟโรด เพิ่มฟังก์ชั่นแสดงตำแหน่งองศาของล้อในจอ ทำให้เห็นมุมล้อในการตะกุยหรือไต่เส้นทางทุรกันดาร

และไม่เฉพาะจุดเด่นดังกล่าวที่ทางโตโยต้าพยายามปลุกปั้นให้รีโว่ใหม่และฟอร์จูนเนอร์ใหม่สามารถครองใจลูกค้าได้เท่านั้น

ในสถานการณ์โควิดระบาด ช่วงเวลาของความเหนื่อยยากของทุกคนเช่นนี้ โตโยต้าจึงพยายามทุ่มสรรพกำลังเต็มที่ืเพื่อให้ลูกค้าสะดวกที่สุด จึงระดมจัดบริการในรูปแบบต่างๆ มาป้อนให้ลูกค้าเช่น ทีคอนเนคต์ ระบบเชื่อมเครือข่ายบริการต่างๆ และเทเลเมติกส์ แคร์ การดูแลป้องกันความปลอดภัย และบริการ แฮปปิเนส โมบิลิตี้ เหมือนกับมีผู้ช่วยส่วนตัว คอยช่วยในยามรถเสียรถเกิดอุบัติเหตุ รถหาย

หรือแม้แต่บริการ ฟลีทเทเลเมติกส์ สำหรับเจ้าของกิจการ เพื่อตรวจสอบการขับรถแต่ละคัน สามารถช่วยลดต้นทุนการขนส่งในการทำธุรกิจได้

เรียกได้ว่างานนี้โตโยต้าไม่ใช่แค่ผลิตรถให้โดนใจลูกค้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังพยายามกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยเพิ่มทางเลือกหลากหลาย พูดง่ายๆ ว่าไม่ได้ขายแค่ตัวรถ แต่ขายบริการมัดใจลูกค้าในช่วงพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไป

รีโว่ใหม่มีทั้งหมด 40 รุ่น ทั้งแบบตอนเดียว ยกสูง ตัวเตี้ย 4 ประตู ราคา 544,000-1,239,000 บาท

ส่วนฟอร์จูนเนอร์ มี 7 รุ่นย่อย ราคาตั้งแต่ 1,319,000-1,839,000 บาท

ถือเป็นการยกระดับรถกระบะและรถกระบะดัดแปลงไปอีกขั้น เน้นเพื่อความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นเป็นเป้าหมายสำคัญ

นายพล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image