ธุรกิจเหล้า-เบียร์เฮรัฐปลดล็อกเฟส4 รับได้คงพรก.ฉุกเฉิน วอนเห็นใจขายบนออนไลน์

ธุรกิจเหล้า-เบียร์เฮรัฐปลดล็อกเฟส4 รับได้คงพรก.ฉุกเฉิน วอนเห็นใจขายบนออนไลน์

นายธนากร คุปตจิตต์ นายกสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ไทย เปิดเผยว่า การปลดล็อกธุรกิจในเฟส4 ให้ประชาชนสามารถสั่งและนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในร้านอาหารได้ ถือว่าเป็นการช่วยผ่อนคลายธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ได้ในระดับหนึ่ง เพราะปกติสัดส่วนการขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ส่วนใหญ่ 60-70% ขายในสถานบันเทิง เช่น ผับ บาร์ คาราโอเกะ และกิจกรรมบันเทิงตามฤดูกาลและแหล่งท่องเที่ยว ขณะที่ 30-40%ได้จากการขายทั่วไป

ทั้งนี้แม้เฟส4 ให้ดื่มเบียร์และสุราได้ แต่ก็ยังติดในเรื่องมาตรการเว้นระยะห่าง ก็หวังว่าเฟส5 จะปลดล็อกกลุ่มสถานบันเทิงได้หมด ไม่เกินต้นเดือนกรกฎาคม หากดูจากกรอบเวลาในการคลายล็อกแต่ละเฟส แต่อย่างไรก็ตามยังมีสับสนกรณีผ่อนปรนเปิดโรงแรมแล้ว แต่สามารถให้ดื่มในพื้นที่บางส่วนได้หรือไม่  เช่น ล็อบบี้เล้าจ์ รวมถึงผับที่ปรับตัวมาจำหน่ายอาหารและเครื่องหลังเกิดวิกฤตโควิดระบาด ซึ่งในต่างจังหวัดมาจำนวนมาก อยากให้ศบค.ทำความเข้าใจ ด้วย

 “สำหรับการยกเคอร์ฟิวนั้นเห็นด้วย และเชิงธุรกิจรับได้ที่รัฐบาลยังคงพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อเก็บไว้เป็นอาวุธหรือเครื่องมือเร่งด่วน หากการระบาดโควิดรอบ2 จะได้นำมาใช้ควบคุมได้ทันที”นายธนากรกล่าวและว่า ขณะนี้กำลังกังวลประกาศห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์จะพิจารณาเห็นชอบในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ ซึ่งเอกชนมองว่าจะเป็นการกดดันธุรกิจให้แย่ลง ไม่สอดรับนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม และยืนยันขายบนออนไลน์ไม่ได้สร้างปัญหา อย่างที่พูดถึง เช่น ก่อปัญหาการดื่มเพิ่มในเยาวชน กลับมองว่าช่วยสกัดและรู้ว่าการซื้อนั้นเป็นเยาวชรหรือไม่

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประกาศห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น เนื่องจากในปัจจุบันมีวิวัฒนาการของการใช้เทคโนโลยีที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาผู้ประกอบการและร้านค้าบางส่วน ใช้ช่องทางในการซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์มากยิ่งขึ้น ทำให้ยากต่อการควบคุมเกี่ยวกับเรื่องวัน เวลา สถานที่ และบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนสามารถเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้โดยง่าย และลดผลกระทบอันเกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงมีความจำเป็นในการออกอนุบัญญัติดังกล่าว เพื่อกำหนดเป็นมาตรการทางกฎหมายในการควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 และมาตรา 30 (6) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 นายกรัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ต่อผู้บริโภคโดยตรง หรือเป็นการดำเนินการใด ๆ ในลักษณะการเชิญชวนให้ซื้อ การเสนอขายหรือการขายสินค้าหรือบริการต่อผู้บริโภคโดยตรงด้วยการตลาดหรือบริการการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์โดยผู้ขายและผู้บริโภคซื้อขายได้โดยไม่ต้องพบกัน

 ข้อ2 ประกาศนี้ไม่ใช้บังคับแก่กรณีการซื้อขายและการชำระราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ณ ร้านค้า ร้านอาหาร หรือสถานที่ที่ให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

Advertisement

ข้อ 3 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image