‘วราวุธ’ปลื้ม ‘ครูพรรณี’ช่วยตัดเชือกพันหางฉลามวาฬ ‘กรมทะเล’รับไม้ต่อ เร่งลงพื้นที่ติดตามช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563 กรณี นางพรรณี แมคคาที หรือ คุณครูพรรณี ครูสอนดำน้ำ ซึ่งลงดำน้ำบริเวณเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2563 และ พบฉลามวาฬมีเชือกป่านพันบริเวณหาง คาดว่าถูกเชือกพันมานานแล้ว เนื่องจากเกิดบาดแผลลึกบริเวณที่เชือกพัน ทั้งนี้ ได้พยายามตัดเชือกแต่ไม่สำเร็จ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รู้สึกขอบคุณและชื่นชมคุณครูพรรณี ที่พยายามช่วยเหลือฉลามวาฬ พร้อมสั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เร่งติดตามและให้การช่วยเหลือโดยด่วน

นายวราวุธ กล่าวว่า ตนทราบข่าวคุณครูพรรณี ดำน้ำบริเวณเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบฉลามวาฬมีเชือกพันหาง คาดว่าถูกเชือกพันมานานแล้ว เนื่องจากมีบาดแผลลึกบริเวณที่เชือกรัด ทั้งนี้คุณครูพรรณี พยายามว่ายเข้าใกล้อย่างระมัดระวัง และใช้อุปกรณ์ตัดเชือก แต่ยังไม่สามารถตัดเชือกออกได้ ซึ่งตนเห็นภาพที่คุณครูพรรณีเข้าช่วยเหลือแล้ว ตนรู้สึกขอบคุณคุณครูพรรณีที่พยายามช่วยเหลือฉลามวาฬตัวดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ติดตามและสำรวจหาฉลามวาฬตัวดังกล่าว เพื่อช่วยตัดเชือกออกจากหางและรักษาบาดแผลที่เกิดขึ้น พร้อมให้รายงานตนทราบเป็นระยะ

“จากเหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นผลทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ ในเชิงบวก คือ ความสมบูรณ์ของธรรมชาติใต้ท้องทะเลเพิ่มมากขึ้น สัตว์ทะเลหายากพบเห็นได้บ่อยครั้งขึ้น แต่ในทางกลับกัน ยังสะท้อนถึงปัญหาขยะทะเลที่ยังวนเวียนสร้างความเสียหาย และความสูญเสียต่อสัตว์ทะเลในท้องมหาสมุทรทั่วโลก

Advertisement

สิ่งนี้ ยิ่งเป็นการตอกย้ำเราทุกคนถึงผลจากการกระทำอย่างขาดจิตสำนึก สัตว์ทะเลป้องกันตัวเองจากขยะทะเลไม่ได้ ไม่สามารถบอก หรือขอร้องให้เราหยุดการกระทำที่ทำร้ายพวกเขาเหล่านั้น แต่เราทุกคนสามารถคิดใหม่เพื่อลดปัญหาขยะล้นทะเลและช่วยชีวิตสัตว์ทะเลให้รอดพ้นจากวิกฤติปัญหาดังกล่าวได้” นายวราวุธ กล่าว

นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า ได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 พร้อมทีมดำน้ำ นักวิชาการ และสัตวแพทย์ ลงพื้นที่สำรวจและติดตามฉลามวาฬดังกล่าว พร้อมให้ประสานนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสนธิกำลังติดตามและให้การช่วยเหลือ

“นับตั้งแต่ช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ซึ่งเป็นช่วงที่เราปล่อยให้ธรรมชาติได้พักฟื้น ทำให้พบสัตว์ทะเลหายากมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝูงพะยูนกว่า 20 ตัว ใกล้เกาะลิบง จ.ตรัง,  ฝูงวาฬเพชฌฆาตดำกว่า 30 ตัว ใกล้เกาะรอก นอกจากนี้ ยังพบฝูงฉลามวาฬ บริเวณหมู่เกาะลันดา และฝูงฉลามหูดำ บริเวณหมู่เกาะพีพีและเกาะห้อง จ.กระบี่

สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นฉลามวาฬตัวที่มีเชือกพัน หรือสัตว์ทะเลอื่นที่ได้รับผลกระทบจากขยะทะเล สามารถแจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือหน่วยงานในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางกรมจะเร่งจัดส่งเจ้าหน้าที่และทีมนักวิชาการผู้ชำนาญลงตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ ซึ่งกรมมีความพร้อมทั้งบุคลากรและศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายาก ที่พร้อมให้การดูแลและรักษาเป็นอย่างดี” นายโสภณ กล่าวทิ้งท้าย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image