รองอธิบดีชป.ติดตามโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองหาดใหญ่ เฟส 2 คืบ72 %

รองอธิบดีชป. ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองหาดใหญ่ เฟส 2 หวังลดปัญหาน้ำท่วมเมืองหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียงได้ ก้าวหน้ากว่า 72%

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานก่อสร้างโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) จังหวัดสงขลา รวมทั้งติดตามความก้าวหน้าโครงการต่างๆ ในพื้นที่ ณ ห้องประชุมสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 11 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

จากนั้น ช่วงบ่าย รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างสถานีสูบน้ำบางหยี ซึ่งเป็น 1 ในโครงการปรับปรุงคลองระบายน้ำ ร.1 พร้อมอาคารประกอบ(สัญญาที่ 1) โครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) จังหวัดสงขลา โดยได้เร่งรัดงานก่อสร้างโครงการฯ ให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ซึ่งคาดว่าการปรับปรุงคลองระบายน้ำ ร.1 พร้อมอาคารประกอบสัญญาที่ 1 จะแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2563 นี้

นายประพิศกล่าวด้วยว่า “ปัจจุบันโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) จังหวัดสงขลา มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 72 % ซึ่งเมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จ จะสามารถรับมือกับปัญหาอุทกภัยดังที่เคยเกิดขึ้นกับอำเภอหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียงมาหลายครั้งเมื่อในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งล้วนแล้วแต่สร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเขตเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบอุทกภัย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมหลายหมื่นล้านบาท”

“สำหรับโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) ปัจจุบันกรมชลประทานได้มีส่วนในการเข้ามาดำเนินการก่อสร้างเอง ทำให้การดำเนินงานก่อสร้างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปด้วยความรวดเร็ว สามารถแก้ไขปัญหาอุทกภัยในเขตอำเภอหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งการปรับปรุงคลองระบายน้ำ ร.1 เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำจากเดิมที่สามารถระบายน้ำได้สูงสุด 465 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ให้สามารถระบายน้ำได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเมื่อรวมกับศักยภาพการระบายน้ำของคลองอู่ตะเภาในอัตรา 465 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะสามารถช่วยเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำได้สูงสุดรวมกันประมาณ 1,665 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในส่วนของประตูระบายน้ำหน้าควน 2 นั้น ปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างและติดตั้งบานระบายน้ำเสร็จแล้ว สามารถบริหารจัดการน้ำด้วยการเปิด-ปิดบาน ควบคุมปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าสู่คลองระบายน้ำ ร.1 ได้แล้ว นอกจากนี้ ยังได้ทำการปรับปรุงขุดขยายความกว้างของคลองระบายน้ำจากเดิมท้องคลองกว้าง 24 เมตร เป็น 70 เมตร หากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ก็มั่นใจว่าคลองระบายน้ำ ร.1 จะสามารถบรรเทาภัยให้กับประชาชน ช่วยลดความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ได้นับหมื่นล้านบาท”นายประพิศกล่าว


Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image