“วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล” ยกเคส “บอมเบย์เบอร์ม่า” ใช้เงินงบประมาณที่สูญเปล่า

เพจเฟซบุ๊กวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการรื้อถอนโบราณสถาน “บอมเบย์เบอร์ม่า” ดังนี้

คำตอบ ความยากจนและหนี้สินประเทศ
โบราณสถาน “บอมเบย์เบอร์ม่า”1 แห่ง
อาจจะมองเพียงความสูญเสีย
อาคารอนุรักษ์ที่มีประวัติศาสตร์และ
จิตวิญญาณชุมชน ที่คนไทยทั้งประเทศเสียดายและหวงแหน
โบราณสถาน?ที่สูญเสียไปในวันนี้?
เงินนับร้อยนับพันล้านก็แลกไม่ได้
แต่หากความสูญเสีย “บอมเบย์เบอร์ม่า” นี้มาสะท้อนให้?พวกเราคนไทยมองเห็นว่า
มันคือรูปแบบของปัญหาที่แฝงอยู่ในกระบวนการจัดทำงบประมาณและการจัดทำโครงการในการพัฒนาประเทศ? ของรัฐบาลนี้ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต?แล้ว
การจะสร้าง “บอมเบย์เบอร์ม่า”ปลอมขึ้นมาใหม่หรือไม่ คงไม่มีอะไรแตกต่างกัน
การสูญเสียครั้งนี้ จะทำให้เราเข้าใจ?ว่า
ทำไม? วันนี้คนไทยถึงยากจนลง
ทำไม? ประเทศไทยถึงได้ล้าหลังเพื่อนบ้าน
ทำไม? หนี้สินประเทศ ถึงเพิ่มขึ้นไม่หยุด
และเราจะแก้ไขปัญหานี้กัน อย่างไร?
ขออนุญาตนำเสนอความเห็นครั้งนี้
ในเชิงวิชาการ หากจะกระทบผู้ใด
ก็ขออภัยไว้ในที่นี้ด้วย
เพราะหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ไปสู่การแก้ไขปัญหาของประเทศให้ดีขึ้น
การรื้อถอน “บอมเบย์เบอร์ม่า”ผิดตรงไหน

ลำดับแรก การอนุญาตให้หน่วยงานที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจในโบราณสถานที่และไม่มีจิตอนุรักษ์เข้าไปใช้ในโบราณสถาน
ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างมาก
เป็นสิ่งที่ผิดมาตั้งแต่แรก?

ประการที่2 กระทรวงทรัพย์ ครอบครองและประกาศตัวเป็นเจ้าของ โดยไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปแตะต้อง และการตั้งงบประมาณในการซ่อมบำรุงให้นั้น “ยากมาก” ทำให้โบราณสถานต่างๆของชุมชนเสื่อมโทรมไปโดยไม่ได้รับความสนใจ? เราจึงเห็นไม้อัดไปแปะอยู่บนอาคาร100ปี โดยทั่วไป

Advertisement

ประการที่3 กระทรวงทรัพย์ ไม่ให้ความสนใจ สร้างที่ทำงานให้ข้าราชการของตนเอง แต่ใช้วิธียึด โบราณสถานของชุมชนเป็นที่ทำงานแทน ดังนั้น แทนที่ชุมชนเมืองเก่าจะมี อาคารประวัติศาสตร์ เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่กลับได้อาคารเก่า
ผุพัง กระจายอยู่ทั้งเมือง
ดังนั้น เมื่อข้าราชการ ไม่ได้รับความสะดวก
ก็ไม่แปลกที่อยากจะทุบอาคารเก่าทิ้งแล้วสร้างที่ทำงานใหม่เพื่อให้ทำงานได้สะดวกสบายกว่าเดิม????? โดยที่ไม่สนใจว่าอาคารที่ตนเองใช้งานอยู่นั้นเป็นโบราณสถานอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี? และเป็นสมบัติของชุมชน
แต่เนื่องจาก ไม่ สามารถของบประมาณ
ในการสร้างที่ทำงานใหม่จากกระทรวงได้จึงดำเนินการ?”ซ่อนเงื่อน” โดยเขียนโครงการเป็นซ่อมแซมและปรับปรุง ?
(งบอาคาร4ล้านบาทเป็นงบสร้างห้องน้ำใหม่กว่าล้านบาท)
แต่แท้ ที่จริงแล้วกลับเป็นการรื้อถอนและ
ใช้งบซื้อไม้ปลอม “ไม้เชอร่า “และเหล็กชุบสังกะสี มาสร้างเป็นอาคาร?100ปีแทน
ส่วนไม้สักทองอาคารประวัติศาสตร์เมืองไม้สักทองที่ดีที่สุดในโลก?อายุกว่า100ปีนั้น
สุดท้าย จะนำไปที่ใดไม่มีใครทราบเพราะไม่ได้ปรากฏอยู่ในบันทึกแต่แรก แต่เพิ่งจะได้นำกลับมาใช้สร้างอาคารให้อยู่ในรูปแบบเดิมก็ต่อเมื่อ”ความแตก”เสียแล้ว?

ดังนั้น การเสนอตั้งของบประมาณเพื่อการซ่อมแซมแต่ในรายละเอียดเป็นการรื้อถอนทำลายอาคารโบราณ127ปี บอมเบย์เบอร์ม่า ที่เป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษ ที่มาทำธุรกิจค้าไม้ ที่จังหวัดแพร่นั้น
ถือว่า เป็นการให้การเท็จต่อกรรมาธิการงบประมาณและ

กระทำการทุจริตงบประมาณ ของหน่วยงาน ของจังหวัด ของผู้บริหารกระทรวงที่ชี้แจง
ก่อให้เกิดความเสียหายทำลายโบราณสถาน เป็นความสูญเสียทางด้านการท่องเที่ยว ศิลปกรรม และชื่อเสียง ภาพลักษณ์ของประเทศชาติ อย่างร้ายแรง

ประการที่4 การที่รองอธิบดีกรมอุทยานรับปากจะจัดหางบประมาณมาซ่อมแซมให้นั้น ด้วย?งบประมาณปี2563ที่ประมูลไปแล้วจำนวน 4,560,000 บาท?จะนำมาใช้ไม่ได้ เพราะในรายละเอียดเป็นการซื้อวัสดุใหม่ มิใช่การซ่อมแซม จึงไม่ตรงวัตถุประสงค์
ส่วนงบประมาณปี2564 ตั้งไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีรายการนี้ อย่างเร็วก็ปี2565 ป่านนั้น ไม้เก่าที่รื้อถอนมา ก็จะชำรุดไปหมดแล้ว ยกเว้นกรมอุทยานฯ จะยอมนำเงินกองทุนที่ได้จากการเก็บค่าเข้าชมอุทยานที่จัดเก็บได้หลาย1,000ล้านบาทมาชดเชยให้
จึงต้องรอดูว่า กระทรวงทรัพย์ จะดำเนินการได้จริงหรือไม่ อย่างไร

ประการที่5 ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด
ร่วมจัดทำเอกสารเท็จ เซ็นเอกสารย้อนหลัง
เป็นเลขานุการกลุ่มยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวแต่?ทำโครงการทำลายอาคารโบราณสถานที่มีสถาปัตยกรรมร่วมไทย-อังกฤษ ทำลาย แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์? ไม่เป็นไปเพื่อการท่องเที่ยวแต่อย่างใด
แต่กระทรวงท่องเที่ยว ก็ยังเพิกเฉย มิได้ดำเนินการอะไร แต่อย่างใด
จึงไม่ทราบว่า แนวทางการทำงานเช่นนี้ ถือเป็นวิธีปฏิบัติทั่วไปของกระทรวงหรือไม่ ทางกระทรวงจึงมิได้เห็นว่าเป็นความผิดปกติของการทำงาน

ประการที่6 รองผู้ว่าราชการจังหวัด
อยู่จังหวัดแพร่มานาน
?-เห็นชอบโครงการ รื้อทิ้งแล้วให้สร้างใหม่
-ไม่มีการทำรายงานการศึกษาความเหมาะสมโครงการ
-เห็นชอบรูปแบบรายการและจัดทำงบประมาณเป็นเท็จ เอกสารไม่ตรงข้อเท็จจริง
-ไม่ขออนุญาตก่อสร้างจากท้องถิ่น
-ไม่ได้รับความเห็นชอบจากกรมศิลปากร
-ไม่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการอนุรักษ์เมืองเก่า
-ไม่ได้รับฟังความคิดเห็นจากชุมชน
-จัดทำเอกสารประมาณย้อนหลัง
-ทำเอกสารเท็จเสนอต่อกระทรวงมหาดไทยเพื่อนำเสนอข้อมูลเท็จต่อคณะกรรมาธิการงบประมาณ??????
-ชื่อโครงการเป็นซ่อมแซม แต่รายละเอียดเป็นการรื้อถอน
@โครงการแบบนี้ ท่านก็ปั้นขึ้นมาได้
#จึงไม่สามารถให้ความคิดเห็น
ขอให้เป็นดุลยพินิจ ของทุกท่าน

ประการที่7 ผู้ว่าราชการจังหวัด
ยอมรับแล้วว่าเป็น “ผู้อนุมัติโครงการ”
แต่ยังบอกว่า ไม่ได้ให้รื้อถอน
ทั้งที่ในแบบแปลนและสัญญาจ้างผู้รับเหมาระบุว่าต้องมีการรื้อถอน
ซึ่งการรื้อถอน ทุบทิ้งอาคารโบราณสถานเช่นนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีการอนุมัติ
ดังนั้น การคัดเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่ง
เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด จึงควรมีการกำหนดคุณสมบัติทางด้านบริหาร มากกว่าด้านอาวุโส
และถ้าหากมีความเสียหายเกิดขึ้นนั้น
ทางกระทรวงมหาดไทย
ก็ควรจะมีส่วนในการรับผิดชอบด้วย?

ประการที่8 กระทรวงวัฒนธรรม
ขอขอบคุณ ที่มาช่วยตอนจบ(ไปแล้ว)
แต่ถ้าจะกรุณาตัดสินใจในการทำงานให้เร็วขึ้นและถ้าหากเห็นว่าเอกสารไม่สมบูรณ์ จะกรุณาให้เจ้าหน้าที่เดินทางมาดูให้ เหตุการณ์ทุบทิ้ง ทำลาย ก็คงไม่เกิดขึ้น (ฝากท่านรัฐมนตรี อิทธิพล คุณปลื้ม ช่วยดูแลให้ด้วยนะครับ)

ประการที่9 จะเห็นว่าในขณะที่ พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ต่างร่วมกันแสดงออกและเรียกร้องถามหามาตรการ “ความรับผิดชอบ”ในการเยียวยา แก้ไข ปกป้องและแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาอีกนั้น
กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา
ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน
หรือว่า การปฏิบัติเช่นนี้ เป็นแนวปฏิบัติปกติของทุกกระทรวงจริงๆ

10ประการสำคัญ การที่สำนักงบประมาณ
ปล่อยให้มีการขอรับการจัดสรรงบประมาณที่หละหลวมขนาดนี้ เกิดขึ้นมาได้นั้น
แสดงว่าให้เห็นถึงว่า
ในปัจจุบัน รายการโครงการที่มีปัญหา
ทั้งรูปแบบรายการ แบบแปลน การขออนุญาต การคำนวณ?เม็ดเงินฯลฯ
ไม่ใช่มาตรฐานของสำนักงบประมาณที่พึงจะมั่นใจ ควรที่กรรมาธิการงบประมาณ ประจำปี จะได้กำหนดมาตรการการตรวจสอบ ทั้งเอกสาร แบบแปลนและเม็ดเงิน ให้เข้มงวดรัดกุม มากยิ่งขึ้น ก็จะเป็นการลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้

สิ่งที่เกิดขึ้น เห็นได้ว่า
ในปัจจุบัน การทำโครงการของหน่วยงานนั้น มีวัตถุประสงค์อยู่เพียง ให้ได้ทำโครงการใช้งบประมาณให้แล้วเสร็จ
แต่ ผลสัมฤทธิ์ของโครงการจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนชุมชนหรือประเทศชาติอย่างไรหรือไม่นั้นไม่มีความชัดเจน

จึงเป็นเหตุผลว่าถ้าหากเรายังปล่อยให้มีการทำโครงการของรัฐไปลักษณะนี้อีกนั้น
ก็จะก่อให้เกิดการสูญเสียงบประมาณแผ่นดินไปโดยไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร?

สุดท้ายประเทศก็จะต้องกู้หนี้ไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
ประชาชนก็คงจะยากจน?
ประเทศไทยก็คงจะล้าหลังประเทศเพื่อนบ้าน
ขอให้”บอมเบย์เบอร์ม่า “
เป็นบทเรียน
เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา ในอนาคต
“อย่างแท้จริง”
การสูญเสียของพวกเราชาวแพร่ ครั้งนี้
พวกเราจะไม่เสียใจเลย
ขอให้ทุกความเห็น และเสียงเรียกร้องของพวกเราดังขึ้น ให้ก้องฟ้า
นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า
เพื่อพี่น้องประชาชนทุกคน ด้วยครับ.

วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image