ท.ญ.สุพิศ จึงพาณิชย์ ประธานชมรมธุรกิจโรงแรม จังหวัดสตูล กล่าวว่า ในตัวเมืองจังหวัดสตูลแม้จะถูกประกาศให้เป็นดินแดนเมืองเก่าทางพหุวัฒนธรรม มีโบราณสถานทั้งพุทธและมุสลิมมากมาย มีเสน่ห์เรื่องอาหารการกิน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจก่อนหน้าสถานการณ์โควิด-19 คึกคักอย่างที่คิด เนื่องจากผู้ประกอบการชมรมธุรกิจโรงแรมเห็นพ้องกันว่า ภาครัฐไม่ได้เข้ามาแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการกระทรวงมหาดไทยอนุญาตให้เปิดด่านตรวจคนเข้าเมืองบนเกาะหลีเป๊ะได้ จนทำให้บรรยากาศในตัวเมืองเงียบเหงาเรื่อยมาจนถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา
ส่วนกรณีรัฐบาลออกมาตรการเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในภาคธุรกิจโรงแรมในครั้งนี้ ท.ญ.สุพิศ กล่าวว่า ยังไม่มั่นใจว่าจะพลิกฟื้นคืนชีพธุรกิจโรงแรมในจังหวัดสตูลได้ เพราะที่ผ่านมายังไม่ได้รับการเหลียวแลอย่างจริงจังจากภาครัฐ มองเฉพาะพื้นที่เศษฐกิจอย่างเกาะหลีเป๊ะ จนลืมพื้นที่เมืองเก่าที่รากเหง้าที่ทรงคุณค่าซึ่งเป็นอีกหนึ่งแห่งของการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
ทั้งนี้โรงแรมในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดสตูล 40 กว่าแห่ง มีห้องพักไม่น้อยกว่า 2,000 ห้อง หลังเกิดสถานการณ์โควิด-19 มีการประกาศล็อกดาวน์ส่งผลให้โรงแรมขนาดใหญ่ร้อยละ 5 ต้องหยุดกิจการ และบางรายต้องเปลี่ยนมือเนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งพนักงาน ค่าบริหารจัดการโรงแรมต่อไปได้ ปัจจุบันหลายโรงแรมปิดกิจการและเปลี่ยนมือเพราะแบกรับภาระไม่ไหว