สหกรุ๊ปชี้กำลังซื้อถดถอยหนักในรอบ20ปี ดึงพันธมิตรลดกระหน่ำ กระตุ้นยอดขายกลางปี

นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้จากความกังวลในเรื่องการเลิกจ้าง และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ได้ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อประชาชนอย่างมาก กังวลต่อรายได้จนชะลอการใช้จ่าย แม้รัฐบาลจะมีการปลดล็อกให้ธุรกิจเปิดบริการหรือจำหน่ายสินค้าได้ตามปกติ หลังจากเปิดชั่วคราวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่กำลังซื้อโดยรวมก็ยังไม่ฟื้นตัวเท่าปกติ โดยคาดว่าความกังวลจะยังคงอยู่ จนกว่าประชาชนจะมั่นใจถึงการหมดลงของการแพร่ระบาดโควิด-19 การลงทุนและการขยายกิจการ รวมถึงการออกกิจกรรมการตลาดหรือสินค้าใหม่ได้ตามปกติ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าไม่ใช่อาหารยังมียอดขายที่ติดลบ บางช่วงขายได้น้อยมาก ขณะนี้กลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และการขายสินค้าบนออนไลน์ยังโตมาก บางช่วงโตถึง 300 %

“ ไม่อาจระบุได้ว่าสถานการณ์ที่กำลังเผชิญและความกังวลน่าจะหมดไป หรือ การฟื้นตัวได้ของกำลังซื้อและเศรษฐกิจเมื่อไหร่ แต่เชื่อว่าอาจไม่ใช่เร็วๆนี้ ซึ่งธุรกิจเราก็เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ประเมินเดือนต่อเดือน ต้องปรับตัวตลอดเวลา และทบทวนแผนการลงทุนและการทำตลาดใหม่ๆ เช่น ลดความถี่ของการออกสินค้าใหม่ เลี่ยงการออกสินค้าใหม่ชนกันเองในกลุ่ม  เพิ่มช่องทางขายใหม่ๆ เพิ่มพันธมิตร เป็นต้น เพราะเรายังมองว่าปีนี้โอกาสรายได้ติดลบยังสูง คาดว่าบริษัทจะติดลบต่อเนื่องจากปีก่อนและติดลบประมาณ 10% จากเดิมตั้งไว้บวก 5% ซึ่งการติดลบต่อเนื่องถือว่าเป็นอีกครั้งในรอบ 20 ปีหลังจากเจอวิกฤตปี 2540 “ นายธรรมรัตน์ กล่าวและว่า ส่วนมาตรการรัฐด้านต่างๆก็เป็นการกระตุ้นได้บางส่วนเท่านั้น หากคนยังกังวลต่อรายได้ มาตรการก็อาจได้ประโยน์ไม่เต็มที่นัก

นายธรรมรัตน์ กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อประชาชนและพยุงรายได้ธุรกิจ จึงได้ร่วมกับพันธมิตรจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ออนไลน์ ปี 63 วันที่ 2-5 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเป็นการยกงานสหกรุ๊ปแฟร์ที่เคยจัดที่ไบเทค มาจัดบน www.sahagroupfair.com โดยจะมีลิงค์จากเว็บไปยัง LAZADA SHOPEE และ JD CENTRAL ซึ่งนับเป็นครั้งแรกจำหน่ายสินค้าบน 3 แพลตฟอร์มพร้อมกันที่จำหน่ายสินค้าในเครือ 7 หมวดกว่า 20,000 รายการ ลดสูงสุดถึง 80% ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ร่วมกับสถาบันการเงินและกองทุน 11 แห่ง ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

” เพื่อให้ส่วนลดเงินสดและเครดิตเงินคืน เพื่อลดค่าใช้จ่ายประชาชน กระตุ้นกำลังซื้อกลางปี และกระตุ้นเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อได้อีกทางหนึ่ง ในแง่รายได้จากการจัดงานอาจไม่เท่าแบบออฟไลน์แต่ก็เชื่อว่าจะทำรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท จากที่เคยจัด200-300 ล้านบาท ” นายธรรมรัตน์ กล่าว

Advertisement

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image