รัฐมนตรี RCEP เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด ย้ำความตั้งใจลงนามความตกลงปีนี้แน่

นายสรรเสริญ สมะลาภา

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ Regional Comprehensive Economic Partnership หรือRCEP สมัยพิเศษ ครั้งที่ 10 ผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน โดยที่ประชุมประกอบด้วยรัฐมนตรีของสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ และรัฐมนตรีของคู่เจรจา 5 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ รวมทั้งเลขาธิการอาเซียน

นายสรรเสริญ กล่าวว่า รัฐมนตรี RCEP ต่างทราบดีว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้สร้าง ความท้าทายต่อการค้า การลงทุน และห่วงโซ่อุปทานโลก ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ รัฐมนตรี RCEP ตกลงที่จะยกระดับความร่วมมือและการประสานงานเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับสู่สภาพเดิมอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงให้เกิด การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง สมดุล และยั่งยืนจากวิกฤตดังกล่าว

นายสรรเสริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมครั้งนี้ รัฐมนตรี RCEP ได้ยืนยันความตั้งใจที่จะลงนาม ความตกลงในปีนี้ ตามที่ผู้นำได้มอบหมายไว้ในการประชุมสุดยอด RCEP ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 ในขณะที่ความสาคัญของ RCEP เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นใน ขณะนี้ รัฐมนตรี RCEP ได้ร่วมกันแบ่งปันมุมมองว่าการลงนามความตกลง RCEP จะเป็นการส่งสัญญาณที่ ชัดเจนในการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี การรวมกลุ่มระดับภูมิภาค รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค RCEP

นายสรรเสริญ กล่าวว่า อินเดียเป็นสมาชิกสาคัญที่เข้าร่วมเจรจา RCEP ตั้งแต่ เริ่มเจรจาเมื่อปี 2555 และเชื่อว่าการเข้าร่วม RCEP ของอินเดียจะสร้างความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งให้กับ ภูมิภาค โดยยังคงเปิดกว้างให้อินเดียกลับเข้ามาร่วมความตกลงในอนาคต ซึ่งรัฐมนตรี RCEP เห็นพ้องที่จะทำงานร่วมกันต่อไป และจะหารือร่วมกันในการประชุมครั้งต่อไปราวเดือนตุลาคมปีนี้

Advertisement

ความตกลง RCEP เป็นความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยสมาชิก 16 ประเทศ มีประชากรรวมกันเกือบ 3,600 ล้านคน คิดเป็นประมาณร้อยละ 48.1 ของประชากรโลก โดยข้อมูลในปี 2562 สมาชิก RCEP มีมูลค่า GDP กว่า 28.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณร้อยละ 32.7 ของ GDP โลก และมีมูลค่าการค้ารวมกว่า 11.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 29.5 ของ มูลค่าการค้าโลก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image