สพฐ. กำชับมาตรการรับมือเปิดเทอม 1 ก.ค. ชี้หากพบน.ร.ติดเชื้อโควิด ปิดร.ร.ทันที 14 วัน

 

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้แจ้งที่ประชุมทราบถึงการเตรียมความพร้อมรองรับเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ในวันที่ 1 กรกฎาคม พร้อมซักซ้อมความเข้าใจในหลักการของการเปิดภาคเรียนกับผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ว่า การเปิดภาคเรียนนี้จะเน้นการเรียนการสอนที่โรงเรียนเป็นหลัก จากการสำรวจมีโรงเรียนที่นักเรียนสามารถไปเรียนครบทุกคนจำนวน 23,000 แห่ง และมีโรงเรียนอีก 5,000 แห่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่จะต้องบริหารจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน เช่น สลับเวลา สลับชั้นเรียนให้นักเรียนมาเรียน เป็นต้น นอกจากนี้ สพฐ.ให้โรงเรียนประเมินตนเองผ่านระบบที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกแบบ พบว่าโรงเรียนทุกแห่งมีความพร้อมที่จะเปิดภาคเรียน อาจจะมีบางโรงเรียนที่ต้องปรับปรุงบ้าง ซึ่งการเตรียมความพร้อมและประเมินโรงเรียนแต่ละแห่งนั้น จะต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมเสนอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และสำนักงานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ และเสนอต่อ ศบค.จังหวัดพิจารณาอนุมัติต่อไป

นายอำนาจ กล่าวต่อว่า ส่วนความปลอดภัยของนักเรียน เช่น การขนส่ง การนั่งพาหนะให้เน้นการล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งในขณะที่นั่งรถ เมื่อถึงโรงเรียนต้องผ่านจุดคัดกรอง หากพบนักเรียนมีไข้ หรืออุณหภูมิร่างกายสูง มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ให้โรงเรียนส่งนักเรียนยังหน่วยงานทางการแพทย์ทันที เพื่อให้แพทย์ตรวจสอบว่านักเรียนติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ ห้ามส่งนักเรียนพักที่ห้องพยาบาล ส่วนการเรียน ต้องจัดห้องเรียนโดยเว้นระยะห่างทางสังคม โดยกำหนดให้มีนักเรียน 20-25 คนต่อห้อง ทั้งนี้โรงเรียนสามารถหยืดหยุ่นได้ เช่น จัดโต๊ะให้นักเรียนนั่งหน้าห้อง เป็นต้น แต่ถ้าจำนวนนักเรียนมี 40 คน ต่อห้อง และโรงเรียนไม่สามารถจัดพื้นที่เว้นระยะห่างทางสังคมให้นักเรียนนั่งได้ทั้งหมด ขอให้โรงเรียนบริหารจัดการจัดการเรียนแบบผสมผสาน ระหว่างการเรียนในห้องเรียน เรียนทางออนแอร์ และเรียนทางออนไลน์

“เด็กที่เรียนในโรงเรียนการศึกษาพิเศษ โรงเรียนเฉพาะความพิการ โรงเรียนด้อยโอกาส ที่มีอยู่ทั้งหมด 176 แห่ง และเด็กอนุบาล ขอให้ครูดูแลอย่างใกล้ชิด ให้นักเรียนเว้นระยะห่างกัน สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ให้นักเรียนล้างมือบ่อยๆ มีของใช้ส่วนตัวของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น จาน ชาม ช้อน ส้อม เป็นต้น ทั้งนี้ สพฐ.จะมีคณะทำงานลงพื้นที่ติดตามทุกจังหวัด เพื่อช่วยเหลือโรงเรียนว่าขาดเหลืออะไรบ้าง เพื่อให้ สพฐ.ช่วยเหลือให้โรงเรียนเปิดเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคมได้ และทุกโรงเรียนจะต้องมีคิวอาร์โค้ดจากแอพพิเคชั่นไทยชนะ ให้นักเรียนสแกน เพื่อระบุตำแหน่งที่อยู่ด้วย ส่วนนักเรียนระดับอนุบาลหรือประถม ให้ครูจดรายชื่อนักเรียนทั้งหมด” นายอำนาจ กล่าว

Advertisement

นายอำนาจ กล่าวต่อว่า หากนักเรียนมาเรียนในโรงเรียนแล้วพบว่าติดเชื้อโควิด-19 โรงเรียนต้องส่งนักเรียนให้ สธ.ต่อทันที ส่วนโรงเรียนให้หยุด 14 วันเพื่อตรวจสอบโรค และให้นักเรียนในโรงเรียนกักตัวเป็นเวลา 14 วันเช่นกัน ทั้งนี้มีการปิดโรงเรียนให้นักเรียน เรียนผ่านออนแอร์ และออนไลน์ และทำใบงานที่ครูได้จัดเตรียมไว้ เพื่อให้การเรียนการสอนสามารถเดินหน้าต่อไปได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image