แพทย์ย้ำ! ไทยไม่พบเชื้อ “โควิด-19” ในปท.32 วัน ถือว่าเสี่ยงต่ำ แต่ไม่การันตีว่าปลอดภัย
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวระหว่างแถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า นับตั้งแต่ที่ประเทศไทยรณรงค์สวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง ทำให้สามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ผลดี และยังส่งผลให้อัตราป่วยโรคทางเดินหายใจอื่นๆ อาทิ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ รวมถึงปอดอักเสบลดลงด้วย
“จากปรากฏการณ์นี้ เมื่อทดลองเทียบกับกับข้อมูลในต่างประเทศที่น่าสนใจอย่าง ที่นิวยอร์ก ซึ่งมีการรายงานการเสียชีวิตจากโควิด-19 มากถึง 2.4 หมื่นคน ซึ่งถือว่ามากกว่าภาวะปกติ โดยเป็นการเสียชีวิตจากโควิด-19 โดยตรง 1.9 หมื่นคน และเสียชีวิตจากสาเหตุทางอ้อมจากโรคโควิด-19 ประมาณ 5 พันคน” นพ.ธนรักษ์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม การที่วันนี้ประเทศไทยไม่มีรายงานผู้ป่วยในประเทศมาเป็นเวลา 30 กว่าวันแล้ว เรียกว่ามีความเสี่ยงต่ำ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อเหลืออยู่เลย
นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องเรียนรู้กันคือ โรคโควิด-19 มีโอกาสพบได้เสมอ แม้กระทั่งมีวัคซีนโควิด-19 มาใช้ก็ยังมีโอกาสพบได้ เช่นเดียวกับจีน ไม่มีรายงานผู้ป่วยมา 50 วัน ยังกลับมาพบได้อีก ดังนั้น การที่เราจะคงตัวเลขให้เป็นศูนย์ไปตลอดอาจจะต้องลงทุนมหาศาล
“เพื่อสร้างสมดุล การควบคุมป้องกันโรค และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปได้ ในระยะเวลาต่อจากนี้ อาจจะต้องมีการเปิดให้คนต่างชาติเข้ามาในประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเข้มข้นทางด้านมาตรการทางด้านสาธารณสุข เพื่อไม่ให้มีจำนวนผู้ป่วยเกินศักยภาพของที่ระบบสาธารณสุขจะรับไหว ซึ่ง ณ วันนี้ ตัวเลขที่รับได้ยังอยู่ที่การมีผู้ป่วย 5 คน ต่อประชากร 1 ล้านคน และดูเป็นรายจังหวัด” นพ.ธนรักษ์ กล่าวและว่า สิ่งสำคัญคือ หากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือกัน ก็จะผ่านไปได้ โดยมีจำนวนผู้ป่วยในอัตราที่รับไหว ทางรัฐบาล สธ. จึงหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากประชาชนด้วยดี ในการสวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัยเมื่อต้องออกนอกบ้าน เลี่ยงที่ที่มีคนมากๆ หมั่นล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล วันนี้มาตรการทางด้านสาธารณสุขเราต้องทำงานกันเข้มข้นทุกด้านเช่นทั้งการป้องกัน ค้นหา รักษา และควบคุม
นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า สำหรับการตรวจสอบกรณีทางการเมียนมารายงานว่า มีคนเมียนมาเดินทางกลับจากประเทศไทย และมาเลเซีย ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 23 ราย นั้น ชัดเจนในว่า 19 ราย คือ คนที่อยู่ในสถานที่กักของไทย ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร ส่วน 4 ราย ที่หลายคนกังวล ติดเชื้อมาจากที่ใดกันแน่นั้น จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา จากสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ไม่พบรายชื่อทั้ง 4 คน ผ่านเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งตามข้อมูลที่เมียนมาระบุว่ามีทั้งที่มาจากไทย และมาเลเซียนั้นในส่วนนี้
“ผมไม่รู้ว่าทางมาเลเซียมีการผลักดันคนต่างชาติออกนอกประเทศอย่างไร แต่ปกติไม่ได้มีการผลักดันเข้าประเทศอื่น ที่ไม่ใช่ประเทศปลายทางของคนนั้น” นพ.ธนรักษ์ กล่าว
