วันที่ 27 มิถุนายน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวระหว่างลงพื้นที่และมอบเครื่องอุปโภคบริโภคบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ย่านถนนจรัญสนิทวงศ์ 32 ถึงสถานการณ์ผลไม้ว่า ตอนนี้ผลผลิตกำลังทยอยออกสู่ตลาด โดยเฉพาะลำไยจากภาคเหนือ ซึ่งคาดผลผลิตปีนี้จะเพิ่มขึ้น 20% จึงต้องนำมาตรการเชิงรุกมาใช้ โดยประชุมร่วมกับเกษตรกรและผู้แปรรูปและผู้ส่งออกมาเป็นระยะๆ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลลดผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำ ทั้งนี้ ล่าสุดพบกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดใน จ.เชียงใหม่และ จ.ลำพูน เพื่อช่วยเหลือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของเกษตรกร ทันทีที่ตัดลำไยและนำไปขาย และมีเอกสารรับรองเป็นเกษตรกร สามารถนำมาเบิกเงินได้กิโลกรัมละ 3 บาท จากพาณิชย์จังหวัด ในส่วนของผู้แปรรูปก็เช่นเดียวกัน สำหรับผู้ส่งออกเพิ่มให้เป็นพิเศษเพราะต้องการเร่งรัดลำไยให้ส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน อินโดนีเซีย และประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็ให้การช่วยเหลือกิโลกรัมละ 5 บาท ถ้าเร่งส่งออกได้ปริมาณมากผู้ส่งออกก็จะกลับมารับซื้อลำไยมากขึ้น นี่คือมาตรการสนับสนุนด้านการเงิน พร้อมกันนี้ได้ช่วยเรื่องหาตลาดในประเทศและต่างประเทศ ทั้งช่องทางออฟไลน์และผ่านระบบออนไลน์
นายจุรินทร์กล่าววว่า ในประเทศ เช่น เปิดพื้นที่ภายในจังหวัด ให้เป็นนโยบายพาณิชย์จังหวัด ทำหน้าที่เซลส์แมนจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นพืชเกษตรชนิดไหน อย่างภาคเหนือปลูกลำไย พาณิชย์จังหวัดต้องหาพื้นที่ให้เกษตรกรขายได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ล่าสุดห้างมาบุญครองจัดพื้นที่ให้ 3,000 ตารางเมตร บริเวณห้างเพื่อให้เกษตรกรนำผลผลิตไปจำหน่าย และจับมือแพลตฟอร์มออนไลน์ในไทยและต่างประเทศ ผลักดันและช่วยเหลือในการระบายลำไยถึงผู้บริโภคโดยตรง
นายจุรินทร์กล่าวว่า นอกจากนี้ ในสถานการณ์ที่ไวรัสโควิด-19 ระบาด คือโครงการพาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชน ช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ซึ่งลดที่ 5 ล็อต เพิ่มสินค้ารับเปิดเทอม ที่จะเปิดการเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคม โดยร่วมกับห้างสรรพสินค้าทั่วทั้งประเทศ ลดราคาสูงสุดถึง 68%
