INDEX : “ล้างบาง” เส้นสาย “4 กุมาร” เหี้ยนหายหมดพลังประชารัฐ
ที่ไม่มีชื่อ นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล เป็นกรรมการบริหารพรรค พลังประชารัฐด้วย
สามารถเข้าใจได้ เพราะว่าเมื่ออยู่ใน “กลุ่ม 4 กุมาร”ก็มีความจำเป็นต้องเฉียบขาด
แต่ที่ไม่มีชื่อ นายชวน ชูจันทร์ นี่ซิถือว่า“ล้างบาง”
ล้างบางไปยัง นายวิเชียร ชวลิต ซึ่งเคยเป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค ล้างบ้างไปยัง นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ ซึ่งเคยเป็น เหรัญญิกพรรค
เรียกได้ว่า “ล้างบาง” อย่างชนิดไม่เหลือ “หน่อ” แม้จะเล็กแม้จะน้อยแค่ไหน เพียงใด ภายในพรรคพลังประชารัฐ
นี่ย่อมชี้ถึง“แนวโน้ม”ที่จะเกิดขึ้นได้ใน“อนาคต”อันใกล้
ถามว่าเจตนาอันเด่นชัดของการล้างบางอย่างที่สัมผัสได้ในที่ประชุม พรรคพลังประชารัฐเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนสะท้อนเจตนาและความต้องการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือไม่
ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น
เพราะท่วงทำนองของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นท่วงทำนองที่ต้องการประสานผนึกพลัง ไม่ว่าจะเมื่ออยู่ในตำแหน่ง ผบ.ทบ. ไม่ว่าจะเมื่ออยู่ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
แม้กระทั่งเมื่อเข้ามาอยู่ในตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์ พรรค พลังประชารัฐ ก็มิได้มีท่วงท่าอาการแบบแตกหักเปรี้ยงปร้าง
รังษีอำมหิตอันแผ่และสร้านไปทั่วทังพรรคพลังประชารัฐจึงไม่น่าจะมาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หากแต่มาจากแต่ละกลุ่มแต่ละมุ้งที่เข้าแย่งยึดอำนาจเอามาได้มากกว่า
อย่าลืมเป็นอันขาดว่าภายใน“กลุ่มสามมิตร”ได้ฝังรอยแค้นไว้กับ “กลุ่ม 4 กุมาร”ตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 มาแล้ว
โดยมีตำแหน่งรัฐมนตรี”พลังงาน”เป็นตัวจุดชนวน
พลันที่การจัดโครงสร้างภายในพรรคพลังประชารัฐเรียบร้อยโดยมี นายอนุชา นาคาศัย ดำรงอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการพรรค โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ ดำรงอยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค
จากนี้ไปคือจังหวะก้าวแห่งการจัดโครงสร้าง“ใหม่”ของเก้าอี้รัฐมนตรี
ชะตากรรมของ“กลุ่ม 4 กุมาร”จะเป็นอย่างไรอ่านไม่ยาก
เพราะว่าตำแหน่งหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการ พรรคก็ชี้ให้เห็นอย่างเด่นชัดแล้วว่าดำรงอยู่อย่างไร