“เมกาบางนา” มั่นใจดึง”ห้างเซ็นทรัล”เสริมทัพ ปรับภูมิทัศน์ใหม่เป็น มีทติ้ง เพลส กรุงเทพตะวันออก มั่นใจคนเข้าห้างตามเป้า

นางสาวปพิตชญา สุวรรณดี กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเมกาบางนา กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในครึ่งหลังของปีนี้ หลังภาครัฐมีนโยบายผ่อนคลายล็อกดาวน์ไปแล้วหลายเฟส ลูกค้าได้กลับมาใช้บริการอีกครั้งเป็นจำนวนมากเพราะมั่นใจต่อมาตรการด้านสุขอนามัยตามแบบวิถี New Normal ของทางห้าง โดยเมกาบางได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า สร้างความพึงพอใจสูงสุด ตามแนวคิด “มีทติ้ง เพลส” ของคนในกรุงเทพฯ ตะวันออก ที่เป็นมากกว่าสถานที่ช้อปปิ้ง แต่เป็นสถานที่พบปะของครอบครัวและเพื่อนฝูง ที่มอบประสบการณ์แห่งเสียงหัวเราะและความสุขให้กับลูกค้าทุกคน โดยเน้น 2 กลยุทธ์หลัก คือ 1.การปรับเปลี่ยนร้านค้า ภูมิทัศน์ของศูนย์การค้าฯ และบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ของลูกค้า และ2.การมอบสิทธิประโยชน์ในแคมเปญการตลาดต่างๆ ให้ลูกค้าคุ้มค่าสูงสุด ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย นอกจากนี้ ยังได้ผู้เช่าใหม่รายใหญ่คือห้างเซ็นทรัลจะมาแทนห้างโรงบินสันซึ่งเป็นผู้เช่ารายเดิม เพื่อยกระดับการช้อปปิ้งมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มหลักคือกลุ่มวัยทำงานและครอบครัวคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูง

นางสาวปพิตชญา กล่าวว่า ห้างเซ็นทรัลมีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 13,000 ตร.ม. รวม 3 ชั้น มีสินค้าทั้งแบรนด์ไทย-แบรนด์อินเตอร์, แบรนด์ Only@Central รวมถึงแบรนด์ใหม่ยอดนิยมกว่า 400 แบรนด์ รวมกว่า 1,000 แบรนด์ “การเปิดให้บริการวันนี้ (2 ก.ค.) ถือเป็นเพียงเฟสแรก และจะทยอยปรับโฉมอย่างต่อเนื่องจนเสร็จสมบูรณ์อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งขยายพื้นที่สาขาร่วมกับศูนย์การค้าเมกาบางนาอีกครั้ง ในปี 2565” นางสาวปพิตชญา กล่าวอีกว่า เมกาบางนายังเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการก่อสร้างอาคารจอดรถจำนวน 8 ชั้นแห่งใหม่ เพิ่มที่จอดรถมากกว่า 2,000 คัน ภายใต้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปี 2564 จะทำให้ศูนย์การค้าเมกาบางนามีที่จอดรถรวมกว่า 12,000 คัน

นางสาวปพิตชญา กล่าวอีกว่า นอกจากการเปิดตัวของห้างเซ็นทรัลแล้ว ยังเพิ่มแบรนด์สำคัญๆ เข้ามา อาทิ Dior และ YSL และในไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป เมกาบางนาจะมีร้านค้าและแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาอีกมาก รวมถึงได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ด้านนอกของโซนเมกา ฟู้ดวอล์ค ภายใต้คอนเซปต์ Scandinavian Playground สนามเด็กเล่นธรรมชาติขนาดใหญ่ พร้อมสายน้ำ (stream valley) และบ่อทราย (sand dune) ภายใต้บรรยากาศสวนต้นไม้อันรื่นรมย์ที่หาได้ยากในเมืองใหญ่ เพื่อให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน โดยขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จไปมากกว่า 50% และเปิดให้ลูกค้าได้เข้ามาพักผ่อนแล้ว จนกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของเมกาบางนา ทั้งนี้การปรับปรุงกำหนดเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนกันยายนนี้

นางสาวปพิตชญา กล่าวถึงแผนการตลาดของเมกาบางนาในครึ่งหลังปี 2563 ว่ายังคงดำเนินการตามมาตรการ Social Distancing อย่างเข้มข้น ได้เปลี่ยนแนวทางการจัดกิจกรรมการตลาดจากรูปแบบไลฟ์สไตล์ อีเวนท์ ที่ดึงคนมาร่วมงานพร้อมกันจำนวนมาก มาเป็นกิจกรรมที่เน้นส่งเสริมการขายให้กับร้านค้า กระตุ้นให้ลูกค้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านทางช่องทางต่างๆ รวมถึงมอบสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าสูงสุดให้กับลูกค้า เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับร้านค้า และร่วมกับพันธมิตรออนไลน์เดลิเวอรี่ แพลตฟอร์มต่างๆ อาทิ LINE Man ทำแคมเปญโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่เริ่มคุ้นเคยกับบริการสั่งอาหาร และยังเป็นแนวทางการขยายช่องทางการขายให้กับร้านค้าผู้เช่าในกลุ่มร้านอาหารได้อีกด้วย

Advertisement

“ด้วยการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจและการตลาดที่ตอบโจทย์ลูกค้า และสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยหากสถานการณ์โควิด – 19 ของไทย ยังคงมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง เมกาบางนาเชื่อมั่นว่าจะสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้ามาใช้บริการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และยังกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน ช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่งเสริมธุรกิจให้กับผู้เช่าของเราให้สามารถเติบโตไปพร้อมๆ กับเราได้ต่อไป” นางสาวปพิตชญา กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image