ผู้ว่าฯ ปัตตานีจี้สอบเข้มปมลูกจ้างกล่าวหา ผอ.เรียกเงิน คาดได้ข้อสรุปโดยเร็ว
ผู้อำนวยการเรียกเงิน – จากกรณีที่ปรากฏคลิปวิดีโอที่อดีตลูกจ้างสาวรายหนึ่ง ได้แอบถ่ายไว้ขณะเปิดกล้องเดินเข้าไปในห้อง และสามารถจับภาพชาย 2 คน โดยชายในภาพที่ยืนทำท่าทางยื่นอะไรบ้างอย่างให้กับชายอีกคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ จากนั้นเจ้าของคลิปได้เดินออกจากห้องไป โดยชายที่นั่งเก้าอี้ ถูกระบุว่าเป็นผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี โดยเจ้าของคลิปกล่าวหาว่า ผู้อำนวยการคนดังกล่าว เรียกเก็บเงินจากลูกจ้างทีโออาร์ รายละ 1,000-3,000 บาท หากใครไม่ให้ ผู้อำนวยการจะไม่จ้างงานต่อ ซึ่งผู้แอบถ่ายคลิปนี้ เป็นลูกจ้างสาวที่ถูกเลิกจ้างไปแล้ว และไม่พอใจกับพฤติกรรมของผู้อำนวยการคนดังกล่าว ซึ่งอดีตลูกจ้างที่แอบถ่าย ระบุว่าทำงานมา 12 ปี และผู้อำนวยการคนนี้ย้ายมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว กลับมีพฤติกรรมเรียกเก็บเงิน จนตนได้รับความเดือดร้อน บางเดือนไม่มีเงินใช้ ถ้าให้ช้ากว่ากำหนด จะไม่พอใจ และกลั่นแกล้งโดยไม่ยอมเซ็นใบสำคัญจ่ายเงินเดือนให้ อีกทั้ง ยังบังคับให้ลูกจ้างทุกคนเซ็นใบลาออกทิ้งไว้ทุกคน เพื่อข่มขู่หากไม่ให้เงินตามที่ตกลงกันไว้ จะถูกออกเช่นเดียวกัน
ด้านนายพศวัต สุวรรณกมลาศ ผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี ยอมรับว่าบุคคลในภาพคือตนเองจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่เคยเรียกเก็บเงินจากลูกจ้าง และเรื่องรับเงินในวันนี้ ไม่ทราบว่าเป็นขั้นตอนไหน หรือเป็นเงินที่ลูกจ้างคืนให้ตนหลังจากยืมไป เพราะเงินเดือนออกช้าเลยต้องมายืม และต้องนำมาคืน ส่วนเรื่องให้เซ็นใบลาออกล่วงหน้านั้น กรณีของรอบปีมีคนที่ทำงานอยู่จำนวนมาก แต่ละปีจะมีการสอบ คนที่ทำคะแนนไม่ถึงจะต้องออก และไม่มีการกลั่นแกล้ง เพราะต้องการบุคลากรที่มีคุณภาพในการทำงาน ยืนยันว่าไม่มีการเรียกเงิน และพร้อมให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบนั้น
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 2 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปยังสำนักบริการอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 6 ตั้งอยู่ ถ.มะกรูด อ.เมืองปัตตานี ซึ่งบรรยากาศโดยทั่วไปเป็นไปอย่างปกติ มีพนักงานกำลังเดินออกจากอาคาร เพราะเป็นเวลาเลิกงาน แต่กลับไม่พบกับผู้อำนวยการคนที่ปรากฏอยู่ในคลิป จึงได้สอบถามพนักงาน ทราบว่าไม่อยู่ โดยได้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่นอกพื้นที่
นายณรงค์พล หมึกทอง ผู้อำนวยการสำนักบริการพื้นที่อนุรักษ์ป่าที่ 6 สาขาปัตตานี เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว ได้สรุปประเด็นเบื้องต้นให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบแล้ว ขณะนี้ในส่วนของสำนักงานที่นี่ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนทางกรมอุทยานแห่งชาติ พืชพรรณและสัตว์ป่า ได้ตั้งคณะกรรมการดำเนินการควบคู่แล้ว ซึ่งอธิบดีได้เน้นย้ำเรื่องความโปร่งใส และความเป็นธรรม ให้ความยุติธรรมแก่เจ้าหน้าที่ หรือลูกจ้างทั้งหมด ส่วนตนได้กำชับพนักงานเสมอว่า ให้ชัดเจนในการเบิกจ่าย ไม่ให้มีทุจริต ห้ามมีแรงงานผี หักค่าจ้างลูกน้อง และเบิกจ่ายเงินให้เร็วที่สุดภายใน 5 วัน ตนเป็นคนสุดท้ายที่ทราบเรื่องเบิกจ่าย ได้ตรวจสอบทางฝ่ายบัญชีแล้วว่ามีการเบิกจ่าย โอนครบทุกฝ่าย แต่หลังจากนั้น จะไม่ตรวจสอบการใช้จ่ายแล้ว เพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัว และไม่เคยได้รับเรื่องร้องเรียน ท้วงติงจากผู้ใต้บังคับบัญชาหน่วยทุกหน่วยว่ามีปัญหาถูกรังแก เลยอาจเป็นข้อบกพร่องก็เป็นได้
“ผมมองภาพรวมๆ ว่าต้องให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิสูจน์จากหลักฐาน วัตถุพยานบุคคลทั้งหมด ให้ตรวจสอบให้เรียบร้อยว่าใครผิดใครถูก ผู้ที่ถูกก็ควรชี้แจงได้ว่าเป็นฝ่ายถูก ผู้ผิดก็ควรได้รับความผิด ตามกฎระเบียบกฎหมายตามที่วางไว้ ซึ่งนายสมนึก พรหมเขียว รองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กำชับด้วยว่าให้ตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจน โปร่งใส โดยเฉพาะผู้ว่าฯ กำชับเช่นเดียวกันว่าให้ตรวจสอบเรื่องนี้ อย่างโปร่งใส เน้นย้ำว่าไม่ให้มีข้าราชการทำความผิด ไม่ให้มีคอรัปชั่น ซึ่งผมเมื่อได้รับคำสั่ง ก็ต้องทำตามนโยบายอย่างเคร่งครัดตามที่ทางกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมป่าไม้ได้วางไว้ ถ้าหากมีการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ผู้ที่กระทำผิดต้องรับชอบ ส่วนการตรวจสอบครั้งนี้ ถือเป็นประเด็นสำคัญ คาดว่าน่าจะตรวจสอบได้รวดเร็วที่สุด” นายณรงค์พล กล่าว