สมาคมผู้ส่งออกข้าว รายงานว่า การส่งออกข้าวช่วง 5 เดือนแรกของปี 2563 มีปริมาณ 2,574,374 ตัน มูลค่า 54,168 ล้านบาท หรือ 1,732.2 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยแง่ปริมาณลดลง 31.9% แง่มูลค่าลดลง 13.2% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปี 2562 ที่ส่งออกปริมาณ 3,779,394 ตัน มูลค่า 62,419 ล้านบาท หรือ 1,975.2 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคม 2563 ส่งออกได้ 462,768 ตัน มีมูลค่า 11,122 ล้านบาท โดยลดลงทั้งปริมาณและมูลค่าที่ 28.1% และ 23.6% ตามลำดับ เนื่องจากการส่งออกข้าวทุกชนิดมีปริมาณลดลงมาก เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน เนื่องจากประเทศผู้นำเข้าได้ชะลอการนำเข้าข้าวหลังจากที่นำเข้าไปจำนวนมากและมีสต๊อกข้าวเพียงพอแล้ว ขณะที่ประเทศเวียดนามและอินเดียกลับมาส่งออกข้าวตามปกติแล้วและราคาข้าวยังต่ำกว่าของไทยมาก ประกอบกับจีนมีการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 2 แสนตัน ส่งผลให้ปริมาณส่งออกข้าวไทยลดลงมาก โดยข้าวขาวไทยส่งออก 181,822 ตัน ลดลง 25.3% ซึ่งส่วนใหญ่ไปแองโกล่า มาเลเซีย กาบอง ญี่ปุ่น และโมซัมบิก ส่วนการส่งออกข้าวนึ่ง 81,224 ตัน ลดลง 31.4% ตลาดหลักแถบแอฟริกา เช่น แอฟริกาใต้ แคเมอรูน ข้าวหอมมะลิ (ต้นข้าว) 119,211 ตัน ลดลง 25.6% ตลาดหลักสหรัฐ แคนาดา ฮ่องกง สิงคโปร์
สมาคมรายงานต่อว่า ตัวเลขเบื้องต้นเดือนมิถุนายน 2563 ปริมาณส่งออกข้าวจะอยู่ที่ประมาณ 450,000-500,000 ตัน เนื่องจากประเทศ ผู้นำเข้าได้ชะลอการนำเข้าเพราะมีสต๊อกข้าวเพียงพอแล้ว ประกอบกับเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนของต่างประเทศ มักบริโภคข้าวลดลง และราคาข้าวของประเทศคู่แข่งยังต่ำกว่าข้าวไทยมาก ทั้งนี้การที่ราคาข้าวไทยยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าประเทศคู่แข่ง เนื่องจากอุปทานข้าวของไทยมีจำกัดทำให้ราคาข้าวภายในประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ ตามรายงานของสมาคม ระบุอีกว่า ขณะที่ค่าเงินบาทก็ยังอยู่ในระดับที่แข็งค่า ส่งผลให้ราคาข้าวไทยสูงขึ้นและห่างจากประเทศคู่แข่งตันละ 60-130 เหรียญสหรัฐ ราคา ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ราคาข้าวขาว 5% ที่ 510 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่เว็บไซต์ Oryza.com รายงานราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนาม อินเดีย และปากีสถาน อยู่ที่ 448-452, 378-382 และ 428-432 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตามลำดับ