นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรณีองค์กรประชาชนเพื่อการปฏิบัติต่อสัตว์อย่างมีจริยธรรม (พีตา) เรียกร้องให้แบนผลิตภัณฑ์มะพร้าว, น้ำมะพร้าว และกะทิสำเร็จรูปจากไทย เนื่องจากมีการนำลิงมาเก็บมะพร้าวเสมือนเครื่องจักร เป็นการทารุณกรรมสัตว์นั้น เรื่องดังกล่าวกระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังพิจารณารายละเอียดข้อกล่าวหาของพีตา อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มีความพร้อมและกำลังพิจารณาอาจจะเชิญทูตประเทศต่างๆที่ประจำอยู่ในประเทศมาดูวิธีการเก็บมะพร้าว เพื่อให้รู้วิถีชีวิตของคนไทยและสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่เป็นการทรมานสัตว์แต่อย่างใด หากคณะทูตได้มาและเห็นวิถีชีวิตแบบอย่างของไทยเชื่อว่าจะทำให้หลายๆประเทศเข้าใจได้ว่าไม่ใช่การทรมานสัตว์แต่อย่างใด “อยากให้มองถึงข้อเท็จจริงด้วย การที่เกษตรกรไทยหรือผู้เลี้ยงลิงใช้ลิงเก็บมะพร้าว ไม่ได้หมายความเป็นการทารุณกรรมสัตว์ ลิงที่ชาวบ้านนำมาเก็บมะพร้าวนั้น อยู่ในวิถีชีวิตแบบนี้มาตั้งแต่อดีต เป็นการเลี้ยงแบบฝึกให้มาเก็บมะพร้าวเป็นการเฉพาะ” ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวและว่า ทั้งนี้ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำประเทศต่างๆทั่วโลกสร้างความเข้าใจดังกล่าว โดยเฉพาะกับห้างค้าปลีกในต่างประเทศได้เข้าใจถึงวิถีของคนไทย เพื่อพิจารณาทบทวนการแบนสินค้าไทยอีกครั้ง นอกจากนี้ จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยว เริ่มจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อร่วมกันแก้ไขและทำความเข้าใจให้สหราชอาณาจักรได้เข้าใจข้อเท็จจริง
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้สำนักงานส่งเสิรมการค้าในต่งประเทศประจำกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ทำการชี้แจงกรณีดังกล่าวให้ผู้บริโภค ผู้ประกอบการ และคู่ค้าที่เกี่ยวข้องได้เข้าใจข้อเท็จจริงว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการทารุณกรรมสัตว์แต่อย่างใด “การนำลิงมาเก็บมะพร้าวเป็นเพียงวิถีชีวิตของชาวบ้านที่มีมายาวนาน และปัจจุบันการผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมมะพร้าวมีจำนวนมาก มีความต้องการสูงถึง 1 ล้านลูก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะนำลิงมาใช้เก็บมะพร้าวจำนวนมากขนาดนี้ เพราะความสามารถของลิงจะเก็บมะพร้าวได้เพียง 40-80 ลูกเท่านั้น” นายสมเด็จ กล่าวและว่า กระทรวงพาณิชย์กำลังเรียบเรียงข้อมูลต่างๆเพื่อทำการชี้แจงสร้างความเข้าใจต่อทุกส่วนที่เกี่ยวข้องได้รับรู้ โดยเฉพาะในกลุ่มทวีปยุโรป และอังกฤษ
