ระดม.ตร.ติดตามผู้ต้องหาคดียา อาศัยจังหวะจนท.เผลอ วิ่งหลบหนีลงจากโรงพัก ขี้นจยย.ที่แฟนสาวติดเครื่องรอ พาหลบหนี คาดว่ายังไม่ได้ข้ามแม่น้ำโขงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จนท.คาดวางแผนล่วงหน้า
จากกรณีที่มีการแชร์ในโลกโซเชียลขอความร่วมมือให้ประชาชนที่ทราบเบาะแส ผู้ต้องหาคดียาเสพติดหลบหนีการควบคุมพบเห็นแจ้ง 191 ระบุผู้ต้องหาคือ นายธีรภัทร ร่างกาย (ศักดา,หำแหล่) อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 11 ต.เหล่าต่างคำ อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ใช้ จยย. ยี่ห้อ Honda รุ่น Wave สี ดำ, แดง ทะเบียน ขจจ 409 หนองคาย เป็นยานพาหนะในการหลบหนี โดยหลบหนีไปกับนางสาวบุษกร ผาทอง อายุประมาณ 19 ปี เกี่ยวข้องเป็นแฟนสาวของผู้ต้องหา ราษฎรบ้านเหล่าต่างคำ พบเห็นแจ้ง 191 เหตุเกิดที่ สภ.บ้านเดื่อ อ.เมือง จ.หนองคาย เวลา 09.25 น.นั้น
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ สภ.บ้านเดื่อ อ.เมือง จ.หนองคาย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งได้พบกับ พ.ต.อ.เตชรัฐ ประทุมชาติ ผกก.สภ.บ้านเดื่อ และ ร.ต.อ.ศราวุธ จันทวงษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเดื่อ ซึ่งเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ ทำให้ทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 09.08 น. ขณะที่ ร.ต.อ.ศราวุธ จันทวงษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเดื่อ ได้เร่งทำการสอบสวนผู้ต้องหาในคดียาเสพติด จำนวน 3 คน ก่อนที่จะนำตัวไปส่งที่ศาลเพื่อฝากขัง
หลังจากที่สอบสวนผู้ต้องหา 2 คนแรกใกล้เสร็จ ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกคนไปนำตัว นายธีรภัทร (ผู้ต้องหาที่วิ่งหลบหนี) ออกมาทำการสอบสวน เมื่อมาถึงห้องสอบสวน ผู้ต้องหาหนึ่งในสองคนแรกที่ได้ทำการสอบสวนเสร็จแล้วขอเข้าห้องน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่นำตัวนายธีรภัทร มาก็ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาอีกคนไปเข้าห้องน้ำ ในขณะที่นายธีรภัทร ได้มองเห็นประตูห้องสอบสวนเปิดอยู่ได้รีบวิ่งออกไปที่หน้า สภ. ขึ้นรถจักรยานยนต์ที่แฟนสาวจอดติดเครื่องรอที่หน้า สภ.ขับขี่ไปตามถนนโพนพิสัย-หนองคาย ก่อนจะขับเลี้ยวเข้าถนนเข้าหมู่บ้านที่ริมถนนมีป่ารก เจ้าหน้าที่ตำรวจออกติดตาม แต่ยังไม่พบตัวทั้งสองคน ซึ่ง ร.ต.อ.ศราวุธ ก็ได้ร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ด้านหน้าให้จับตัวให้ ส่วนตนเองต้องคุมตัวผู้ต้องหาอีกคนที่นั่งอยู่ในห้องสอบสวน
การหลบหนีครั้งนี้คาดว่ามีการวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ โดยในช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุไม่นาน นางสาวบุษกร ผาทอง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 3 ต.เหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย จังหวัดหนองคาย แฟนสาวของนายธีรภัทร ได้เข้ามาเยี่ยมบอกเอาเสื้อผ้าและรองเท้ามาให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็อนุญาตให้เยี่ยมได้ และได้สอบถามว่ามีอะไรที่ผิดกฎหมายหรือไม่ แต่ไม่ได้ค้นตัวเนื่องจากเป็นผู้หญิง และเมื่อพบว่ามีการนำโทรศัพท์เข้าไปด้วย ก็ได้ตักเตือนและยึดโทรศัพท์ไว้ก่อน จนกระทั่งถึงเวลาที่จะนำตัวนายธีรภัทร มาสอบสวนก่อนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาล แฟนสาวของนายธีรภัทร ก็ได้จาก สภ. ไป จนกระทั่งนายธีรภัทร ได้จังหวะวิ่งหลบหนีออกมาขึ้นจักรยานยนต์ที่แฟนสาวติดเครื่องรออยู่
เบื้องต้นได้มีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.บ้านเดื่อ , สภ.เหล่าต่างคำ , สภ.เมืองหนองคาย และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ออกติดตามตัว คาดว่าทั้งสองคนยังหลบอยู่ในพื้นที่ ยังไม่ได้ข้ามโขงไปยังประเทศ สปป.ลาว ตามที่ผู้ต้องหาได้คุยกับผู้ต้องหาอีก 2 คนที่อยู่ในห้องขัง
สำหรับนายธีรภัทร ถูกเจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยเคลื่อนที่เร็วที่ 2 บก.ควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี นำโดย ร.ท.ณัฏฐภัทร สุขศิริ ผบ.ร้อยเคลื่อนที่เร็วที่ 2 จับกุมเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น.ของวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 ที่บริเวณถนนบ้านศาลาคำ หมู่ 4 ต.หินโงม อ.เมือง จ.หนองคาย ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขยายผลหลังจากเจ้าหน้าที่ทหารจับกุมตัวนายพงศ์สิทธิ์ ดำรงชัย อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 8 ต.เหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย และนายณัฐพล เมยดง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ 8 ต.เหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ได้พร้อมยาบ้า จำนวน 2,000 เม็ด ขณะมาเอายาบ้าที่บริเวณถนนบ้านศาลาคำ และได้ซัดทอดว่านายธีรภัทร เป็นผู้ให้มาเอายาบ้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ขยายผลจนจับกุมตัวนายธีรภัทร ได้
จากนั้นได้นำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า ส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเดื่อ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2563 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนที่นายธีรภัทร จะก่อเหตุวิ่งหลบหนีดังกล่าว
