ฟังคำต่อคำ : ฌอน เปิดใจลำบากสุดในชีวิต พร้อมยกเงินบริจาค 1.3 ล. ให้หน่วยดับไฟป่า
จากกรณี ฌอน บูรณะหิรัญ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ได้ออกมาโพสต์คลิปชี้แจงยอดบริจาคตั้งแต่เปิดบัญชีวันที่ 30 มีนาคม -2 กรกฎาคม มียอดบริจาคแท้จริง 1.3 ล้านบาท พร้อมโชว์สเตทเมนต์ 167 แผ่นนั้น
อ่าน :ฌอน โผล่ขอโทษ แจ้งยอดบริจาคแค่ 1.3 ล้าน พร้อมโชว์สเตทเมนต์ (คลิป)
เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคลิปชี้แจงในครั้งนี้ ฌอนใช้เวลาทั้งหมด 10 นาที โดยฌอน ชี้แจงโดยสรุปว่าที่ฌอนแก้ไขบัญชีรับบริจาคจากกองทุนลมหายใจเชียงใหม่ มาเป็นบัญชีส่วนตัวเนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าที่โตโน่ ระบุว่าจะร่วมบริจาค 1 แสนโดยขอโอนเข้าบัญชีส่วนตัวนั้น เป็นคำแนะนำของโตโน่ ที่จะให้ใช้บัญชีส่วนตัวในการรับบริจาค ในโพสต์จึงได้มาแก้ไขเลขบัญชีมาเป็นเลขบัญชีส่วนตัว
นอกจากนี้ฌอนยังระบุด้วยว่าสาเหตุการแจ้งยอดบริจาค 8 แสนกว่าในครั้งแรกผิดพลาดเกิดจากการที่ให้ทีมงานเร่งสรุปยอดรับบริจาคจากใบเสร็จรับเงินและมีการนับตัวเลขผิดพลาดด้วย ตัวเลขการใช้เงินจากใบเสร็จแท้จริงคือ 9 แสนกว่า อย่างไรก็ตามเมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น จึงได้ประสานงานให้หน่วยงานที่น่าเชื่อถือเข้ามาร่วมตรวจสอบเงินบริจาคซึ่งพบว่าตัวเลขบริจาคจริงอยู่ที่ 1.3 ล้านกว่า โดยจะขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการนำเงินบริจาคทั้งหมดทั้งที่มาจากบัญชีส่วนตัว บัญชีบริษัท ทั้งในช่วงที่เปิดรับบริจาคและหลังปิดรับบริจาคแล้วก็ยังมีผู้โอนเข้ามา รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,346,887.73 บาท โดยจะมอบทุกบาททุกสตางค์ดังกล่าวให้กับหน่วยงานดับไฟต่อไป
ทั้งนี้ในคลิป ฌอนยังยกมือไหว้ขอโทษและระบุว่าเป็นช่วงที่ลำบากที่สุดในชีวิต และขอบคุณทุกคำติชม คำวิจารณ์ซึ่งจะน้อมนำไปเป็นบทเรียนไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำอีก
ทั้งนี้คลิปทั้ง 10 นาทีดังกล่าว มีรายละเอียด ดังนี้
ผมขอโทษที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจในสังคมในช่วงที่่ผ่านมา ผมไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่ใช้เวลารวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาชี้แจงในวันนี้
ผมขอชี้แจงเรื่องการบริจาค ผมพักอาศัยที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นเวลา 2 ปี และได้รับผลกระทบอย่างมากเรื่องหมอกควันและไฟป่า ผมมีความทุกข์และมีเจตนาที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้มาโดยตลอด ทันทีที่เห็นเพื่อนประกาศทางเฟซ ผมได้เห็นภาพความเสียหายรุนแรงจากไฟป่า จึงอยากมีส่วนร่วมในการกระจายทันทีด้วยการเปิดรับบริจาค
42 นาทีแรก ได้โพสต์เป็นบัญชีกองทุนลมหายใจจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่คนบริจาคเยอะที่สุด ในคืนนั้นพี่โตโน่ ภาคิน ติดต่อมาว่าขอร่วมบริจาคโดยขอบริจาคในบัญชีฌอนเนื่องจากไว้วางใจและความคล่องตัวในการจัดการเงิน จากนั้นผมเข้าใจผิดว่าต้องเปลี่ยนบัญชีในโพสต์ มาเป็นบัญชีตัวเอง ผมดำเนินการรวดเร็ว ไม่มีการเตรียมตัวใดๆ
วันที่ 30 มีนาคม เวลา 3 ทุ่ม 37 นาที ได้เปลี่ยนเป็นเลขบัญชีตัวเองซึ่งผมเปิดไว้นานแล้ว เพื่อขอสนับสนุนรายการสัมภาษณ์ของผม เป็นบัญชีที่เปิดตั้งแต่ปี 2562 ไม่รวมกับเงินส่วนตัว เปิดไว้สำหรับลูกเพจที่อยากสนับสนุนรายการสัมภาษณ์ที่ไม่มีสปอนเซอร์ ให้เราไว้ใช้กับอุปกรณ์การถ่ายทำ ค่าเครื่องบินและที่พักของแขกรับเชิญโดยผู้ชมรับชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ดังนั้นมีเงินค้างอยู่ในบัญชีนี้ 90,186.69 บาท รายการนี้ได้สัมภาษณ์บุคคลที่เป็นแบบอย่างหลายท่านอย่างต่อเนื่อง
และในช่วงกลางเมษายนเมื่อมีเงินบริจาคมาหลายแสน ผมมีเจตนาที่จะนำเงินบริจาคไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับไฟป่าให้มากที่สุดและส่งไปยังองค์กรที่น่าเชื่อถือ ผมจึงได้ปรึกษากับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ทันทีที่ได้ปรึกาษก็ตระหนักว่าการรับบริจาคควรมีการวางแผนที่รอบคอบถี่่ถวน ควรมีหลักฐานต่างๆ เก็บไว้และสามารถชี้แจงได้
จึงได้นำเลขบัญชีออกจากโพสต์ทันทีในวันที่ 30 เมษายน จากนั้นให้ทีมงานไปสอบถามถึงแนวทางการช่วยเหลือให้เกิดประโยชน์จริงๆ ในเรื่องไฟป่าได้รับข้อมูลว่า ณ ขณะนั้นมีการปิดรับบิรจาคเงินและมีสิ่งของที่คนบริจาคค่อนข้างล้นจนเป็นภาระในการจัดเก็บของทีมอาสา สิ่งที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในขณะนั้นคือเครื่องเป่าแรงดันสูงและหน้ากากซึ่งทางเราไม่สามารถจัดหาได้ในเวลานั้น เราจึงกลับมาคิดกันอีกครั้งว่าอะไรที่เราสามารถทำได้ในทันทีและเป็นสิ่งที่เราถนัด ด้วยความที่เราเป็นนักผลิตสื่อทางออนไลน์ และเห็นว่าทุกครั้งที่เราผลิตสื่อเราจะได้เรียนรู้พร้อมกันไปด้วยเราจึงคิดกันไปเองว่าเราจะนำงบส่วนหนึ่งเตรียมไว้เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าในอนาคต ส่วนหนึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความไม่รอบคอบในการจัดการของผมครับ
เราได้เข้าไปทำความรู้จักกับชาวเขาเผ่าปกาเกอะญอ ร่วมกิจกรรมที่เราสามารถทำได้ในขณะนั้น เรียนรู้ บันทึกภาพ ตัดต่อเพื่อมีจุดประสงค์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและสิ่งแวดล้อมซึ่งในวันนี้มีคลิปที่ตัดต่อไว้และแผยแพร่ไปแล้ว 3 คลิปและยังไม่ได้เผยแพร่ 2 คลิป โดยเงินที่ได้มาจากการรับบริจาคไม่ได้นำมาใช้เป็นค่าจ้างทีมงาน แต่เตรียมไว้สำหรับการจ่ายค่าโฆษณาให้กับเฟซบุ๊กเท่านั้น
ระหว่างที่ใช้เวลาศึกษาปัญหาหมอกควันไฟป่าที่เชียงใหม่ ก็เกิดวิกฤตโควิดที่รุนแรงและเร่งด่วน ผมได้คิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แบ่งเงินที่ได้รับบริจาคมาด้วยส่วนนี้จากที่ได้รับการ้องขอจากโรงพยาบาลที่ขาดแคลนเข้ามา นี่คือความไม่รอบคอบอีกจุดที่ผมไม่สื่อสารให้แก่ผู้บริจาคทราบ ด้วยเจตนาที่จะช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน ณ เวลานั้น
ในวันที่ 27 มิถุนายน เกิดคำถามขึ้นจากเพจหนึ่งในออนไลน์เรื่องเกี่ยวกับการรับบริจาค ผมมีเจตนาแสดงความบริสุทธิ์ใจ จึงได้รีบร้อนออกมาชี้แจงในโพสต์เฟซบุ๊ก ผมขออภัยในความไม่รอบคอบในการจัดการเงินบริจาคทั้งหมด ความหละหลวมในการนำเสนอข้อมูลในชุดแรก สื่อสารไปตั้งแต่ยังไม่รอบรวมข้อมูลให้ครบถ้วน วันนั้นผมรีบร้อนอยากสื่อสารให้เร็วที่สุดและห่วงความรู้สึกของเพื่อนๆ ที่ไว้ใจผมและบริจาคเข้ามา จึงสื่อสารข้อมูลออกไปไม่ครบถ้วน
ณ เวลานั้นผมไม่ได้อยู่บ้านและไม่ทันเช็กให้รอบคอบ จึงรีบให้ทีมงานสรุปยอดเท่าที่มีใบเสร็จที่รวบรวมไว้และยืนยันได้ ณ เวลานั้น โดยแจ้งในเพจไปว่ามียอดบริจาค 875,741.53 บาท แต่จริงๆ ยอดนั้นเป็นยอดที่รวบรวมจากใบเสร็จ ซึ่งผมได้ใช้คำผิด ภายหลังเมื่อตรวจสอบอย่างถี่ถ่วนก็พบว่ามียอดที่ใช้ไปตามใบเสร็จทั้งสิ้น 991,541.36 บาท และในบัญชีนี้มีเงินเข้ามาในช่วงรับบริจาคทั้งสิ้น 1,338,644.01 บาท ในทันทีที่ทราบว่ามีข้อมูลตกหล่น ผมจึงคิดว่าควรมีหน่วยงานที่น่าเชื่อถือมาตรวจสอบ
ในวันที่ 29 มิถุนายน ผมรีบยื่นจดหมาย หลักฐานทั้งหมด ให้หน่วยงานที่เกี่ยวทั้งหมดมาตรวจทั้งบัญชี บริษัท สเตทเมนต์ส่วนตัวและสเตทเมนต์ที่เปิดรับบริจาค แสดงต่อเจ้าหน้าที่ที่กรุณามาตราวจสอบตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมที่่ผานมา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจให้เห็นหลักฐานว่าผมไม่ได้นำเงินไปใช้เรื่องส่วนตัวเลย ทั้งนี้มีผู้บริจาค 2 รายที่ขอเงินคืนและได้ดำเนินการคืนเงินแล้ว รายละ 100 บาท และ 200 บาท รวม 300 บาท
จากการที่ผมไม่รอบคอบ คิดไม่ถี่ถ้วนในการจัดการเงิน ผมขอน้อมรับคำแนะนำจากผู้ใหญ่และสื่อต่างๆ ที่ปรารถนาดี ผมขอแสดงความรับผิดชอบโดยจะรวบรวมเงินบริจาคทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ส่งมอบให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือไฟป่าต่อไป
สรุปยอดบริจาคตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม -30 เมษายน มีการโอนเข้ามาจำนวน 5,974 ครั้ง สเตทเมนต์ 167 แผ่น เป็นจำวนเงิน 1,338,644.01 บาท รวมกับเงินอีกส่วนที่เข้ามาในบัญชีบริษัทและบัญชีส่วนตัว จำนวน 41 ครั้ง เป็นยอดรวม 3,501 .95 บาท ซึ่งเราสันนิษฐานว่าอาจเป็นเงินที่ผู้โอนมีเจตนาบริจาคและส่วนสุดท้ายเงินที่เข้ามาหลังปิดบริจาคในวันที่ 1 พฤษภาคม – 28 มิถุนายน มีผู้โอนเข้ามาอีก 50 ครั้ง เป็นยอดรวม 4,189.92 บาท และเงินที่เข้ามาหลังจากปิดรับบริจาคหลังจากวันที่ 29 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม มีผู้โอนเข้ามาอีก 49 ครั้ง 551.85 บาท รวมจำนวนหลังจากนำเลขบัญชีรับบริจาคออกจากโพสต์ จำนวน 4,741.77 บาท รวมยอดเงินทั้งหมดที่จะส่งต่อเพื่อประโยชน์ไฟป่า 1,346,887.73 บาท
เมื่อผมมอบเงินทั้งหมดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับไฟป่าให้ครบแล้ว ผมจะมาอัพเดตในเพจอีกที อย่างไรก็ตามไม่มีวันไหนที่ผมไม่คิดและรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมขอโทษที่ทำให้ครอบครัว เพื่อนๆ และแฟนๆ ต้องเป็นห่วงผมและรู้สึกกังวลในช่วงเวลาที่ผ่านเมา ผมขอโทษในการสื่อสารทุกๆ อย่างที่ไม่ถูกต้องและเหมาะสม และก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีและขอบคุณทุกๆ คำติชม คำวิจารณ์ในทุกมุมจากสังคม จากสื่อ รวมถึงกำลังใจของทุกคนในช่วงที่ลำบากที่สุดในชีวิตผม ผมได้รับกำลังใจและผมจะจดจำเป็นบทเรียนในสิ่งที่ผมพลาดไป ผมจะไม่ทำผิดซ้ำเดิมอีกครั้ง ผมจะไม่หมดกำลังใจ ผมจะไม่ทิ้งความตั้งใจซึ่งผมทำคนเดียวคงไม่สำเร็จ พลังของเพื่อนๆ เป็นพลังของผม ทุกเสียงด่า เสียงติ เสีงชมมีความหมายต่อผมให้ผมได้เรียนรู้ชีวิตว่าผมจะต้องใช้ชีวิตด้วยความระวังและมีสติต่อไป ขอบคุณครับ ผม ฌอน บูรณะหิรัญ
จากฌอน บูรณะหิรัญ 7 กรกฏาคม พ.ศ.2563
วันที่ 27 มิถุนายนเกิดคำถามขึ้นจากเพจหนึ่งทางออนไลน์ เข้ามาเรื่องการบริจาคณ เวลานั้นผมรู้สึกเป็นห่วง และ มีเจตนาที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจจึงได้รีบร้อนออกมาชี้แจงทางโพสต์ในเฟสบุ๊คผมขออภัยในความไม่รอบคอบในการจัดการการบริจาคทั้งหมด ความหละหลวมในการนำเสนอข้อมูลในชุดแรก สื่อสารไปตั้งแต่ยังรวบรวมข้อมูลไม่ครบถ้วนดี วันนั้นผมรีบร้อนอยากรีบสื่อสารให้เร็วที่สุดเพราะห่วงความรู้สึกเพื่อน ๆ ที่ไว้ใจผมและบริจาคเข้ามา จึงสื่อสารข้อมูลตัวเลขออกไปไม่ครบถ้วน- ณ เวลานั้นผมไม่ได้อยู่บ้าน และ ไม่ทันเช็คให้รอบคอบจึงรีบให้ทีมงานสรุปยอดเท่าที่มีใบเสร็จที่รวบรวมไว้และยืนยันได้ ณ เวลานั้นโดยได้แจ้งในเพจไปว่ายอดบริจาค 875,741.53 บาทแต่ที่จริงยอดนั้นคือยอดที่ได้ใช้ไปโดยรวมจากใบเสร็จในขณะนั้น (มีการใช้คำผิด)ภายหลังเมื่อตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนก็พบว่ามียอดที่ใช้ไปตามใบเสร็จทั้งสิ้น 991,541.36 บาทและในบัญชีนี้มีเงินเข้ามาในช่วงเวลาที่รับบริจาคทั้งสิ้น เป็นเงิน 1,338,644.01 บาท – ในทันทีที่ทราบว่ามีข้อมูลตกหล่นจึงคิดว่าควรมีหน่วยงานกลาง ที่เชื่อถือได้มาตรวจสอบในวันที่ 29 มิ.ย. ผมรีบยื่นจดหมายถึงหน่วยงานในจังหวัดเชียงใหม่ ขอความอนุเคราะห์ให้จัดทีมเข้ามาตรวจสอบ Statement บัญชีที่รับบริจาคและบัญชีอื่น ๆ รวมทั้งใบเสร็จ – ผมได้แสดงหลักฐานทั้งหมด ต่อเจ้าหน้าที่ในวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมาที่จังหวัดเชียงใหม่ แสดงให้เห็นว่าผมไม่ได้นำเงินส่วนใดไปใช้เรื่องส่วนตัวเลย- ทั้งนี้ มีผู้บริจาคสามารถที่ขอเงินคืน 2 ราย ได้ดำเนินการคืนเงินแล้ว รายละ 100 และ 200 บาท จำนวนรวม 300 บาท จากการที่ผมไม่รอบคอบ คิดไม่ถี่ถ้วนในการจัดการเงินบริจาค ผมขอน้อมรับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ และ สื่อต่างๆที่ปรารถนาดี ผมขอแสดงความรับผิดชอบโดยจะรวบรวมเงินบริจาคทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ ส่งมอบให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือเรื่องไฟป่าต่อไปจำนวนเงินดังนี้ ยอดบริจาค(ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม – 30 เมษายน)การโอนเข้าจำนวน 5,974 ครั้ง Statement 167 แผ่น เป็นจำนวนเงิน 1,338,644.01 บาท รวมกับ1.เงินอีกส่วนที่เข้ามาในบัญชีบริษัทและบัญชีส่วนตัวที่จำนวน จำนวน 41 ครั้ง เป็นยอดรวม 3,501.95 บาท ซึ่งเราสันนิษฐานว่าอาจเป็นเงินที่ผู้โอนมีเจตนาเพื่อร่วมบริจาค2. เงินที่เข้ามาหลังจากปิดบริจาคหลังจากวันที่ 1 พ.ค.ถึง 28 มิถุนายน มีผู้โอนเข้ามาอีก 50 ครั้ง เป็นยอดรวม 4,189.92 บาท 3. เงินที่เข้ามาหลังจากปิดบริจาคหลังจากวันที่ 29 มิถุนายน ถึง 2 กรกฎาคมมีผู้โอนเข้ามาอีก 49 ครั้ง เป็นยอดรวม 551.85 บาท รวมจำนวนทั้งหมดหลังจากนำเลขบัญชีออกจาก Post รับบริจาค 4741.77 บาทรวมจำนวนเงินทั้งหมดที่จะส่งมอบ 1,346,887.73 บาทเมื่อได้ส่งมอบให้แก่หน่วยงานเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว ผมจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไปรายละเอียดปรากฏตาม Statement ของธนาคารกสิกรไทย สาขามีโชคพลาซ่า050-8-34604-2 ธนาคารกสิกรไทย ชื่อ นาย ฌอน บูรณะหิรัญที่ได้แนบไฟล์ด้านล่างนี้ 👇https://drive.google.com/drive/folders/1NKdg8ZlZfEL-0CIb0AemPp9Dp28lUSmI?usp=sharing
โพสต์โดย Sean Buranahiran – ฌอน บูรณะหิรัญ เมื่อ วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม 2020
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในสเตทเมนต์ 167 แผ่นนั้น มีรายการเงินบริจาคของโตโน่าจำนวน 1 แสนบาท ด้วย
