หวั่นระบาดรอบ 2 ถึงเวลา ‘ห้าง-ร.พ.-คอนโด’ เร่งสร้างความปกติใหม่ เรียกความมั่นใจให้ลูกค้าเพิ่ม

หวั่นระบาดรอบ 2 ถึงเวลาห้าง..-คอนโดเร่งสร้างความปกติใหม่ เรียกความมั่นใจให้ลูกค้าเพิ่ม

นายณัฐภัทร เตชะอธิก กรรรมการผู้จัดการ บริษัท บลู พาร์คกิ้ง จำกัด (Blue Parking) สตาร์ทอัพเจ้าของนวัตกรรมระบบบริหารที่จอดรถอัจฉริยะ โดยใช้เทคโนโลยี IoT (Internet of Things) ที่เปลี่ยนแปลงประสบการณ์การจอดรถให้ง่ายและไร้การสัมผัสมากขึ้น เปิดเผยว่า เมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์โดยเริ่มเปิดสถานที่สาธารณะต่างๆให้คนเริ่มออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น แต่โควิด-19 ก็ได้สร้างความปกติในรูปแบบการใช้ชีวิตใหม่ (นิวนอร์มอล) ให้กับทุกคน เพราะต่างรู้กันอยู่แล้วว่า จากนี้ไปวิถีชีวิตประจำวันจะไม่มีอะไรเหมือนเดิม จึงเป็นเหตุผลชัดเจนที่ภาคธุรกิจต่างๆ ต้องมีการปรับตัวเพื่อรองรับกับนิวนอร์มอลที่เกิดขึ้น เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้บริโภครู้สึกมั่นใจในด้านความปลอดภัยว่า หากต้องมาใช้บริการจะไม่เกิดความเสี่ยงเมื่อต้องออกมาใช้ชิวิตนอกบ้าน และด้วยปัจจุบันที่เป็นยุคของดิจิทัล ดิสรัปชั่น จึงสามารถนำเทคโนโลยีไปพัฒนานวัตกรรมเพื่อช่วยลดข้อจำกัดหรืออุปสรรคต่างๆ ให้ตอบโจทย์และสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน

นายณัฐภัทรกล่าวว่า ปัจจุบันมี 3 ธุรกิจหลักที่ควรเริ่มและเร่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคหรือลูกค้าเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีความปลอดภัยตั้งแต่ย่างก้าวแรกเมื่อเข้ามาใช้บริการ โดยลดการสัมผัสสิ่งต่างๆ หรือพบปะผู้คนเพื่อรักษาระยะห่างทางสังคมให้มากที่สุด คือ ห้างสรรพสินค้าต่างนำใช้นวัตกรรมมาใช้เพื่อลดการสัมผัสให้น้อยที่สุด โดยห้างสรรพสินค้าเป็นหนึ่งในสถานที่ซึ่งต้องเร่งปรับตัวรองรับมาตรการผ่อนคลายให้ประชาชนมาใช้บริการพร้อมรับกับวิถีใหม่ โดยนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อลดการสัมผัสสิ่งต่างๆ ตั้งแต่พัฒนาแอปพลิเคชั่น ระบบสแกนคิวอาร์โค้ด การใช้เทคโนโลยีกล้องตรวจวัดอุณหภูมิ การนำหุ่นยนต์อัจฉริยะตรวจอุณหภูมิเพื่อวิเคราะห์สภาวะเสี่ยงหรือความผิดปกติที่ส่งข้อมูลประมวลผลแบบเรียลไทม์ที่ผ่านระบบ Cloud AI ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเมื่อมาใช้บริการแล้วจะมีมาตรการที่ปลอดภัยรองรับอยู่

การไปห้างฯ ในปัจจุบันนอกจากจะต้องรับกับวิถีชีวิตแบบปกติใหม่ที่นำเทคโนโลยีมาช่วยแล้ว ขณะเดียวกันผู้ใช้บริการเองก็ยังต้องรู้จักป้องกันตนเองและหลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งต่างๆ ให้น้อยที่สุด ตั้งแต่การกดลิฟท์ที่ปัจจุบันห้างฯมีทั้งการพัฒนาระบบเซ็นเซอร์ หรือการเปลี่ยนปุ่มกดลิฟท์เป็นการใช้เท้าแทน และถ้าจะให้ดีควรหันมาใช้ดิจิทัลอีเพย์เมนท์แทนในการชำระเงินเพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัสเงินสด รวมถึงการดูแลรักษาความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในบริบทของตัวเอง แม้ทางห้างฯ มีจุดบริการฉีดฆ่าเชื้อต่างๆ โดยรอบแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ยังต้องเสี่ยงต่อการสัมผัสอยู่นั่นคือ การรับบัตรจอดรถทั้งจากเครื่องรับบัตรอัตโนมัติหรือจากพนักงาน เนื่องจากไม่มีใครการันตีได้ว่าบัตรจอดรถมีการทำความสะอาดก่อนที่จะถูกนำมาใช้อีกรอบหนึ่ง ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญที่ทางห้างฯ ต้องรีบหามาตรการการดูแลเรื่องนี้โดยนำเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้ผู้ที่มาใช้บริการห้างฯ รู้สึกสบายใจและปลอดภัยให้มากที่สุดนายณัฐภัทรกล่าว

นายณัฐภัทรกล่าวต่อว่า รวมถึงโรงพยาบาล ที่ต้องบริหารจัดการเพื่อให้ใช้เวลาในสถานพยาบาลน้อยที่สุด และคอนโดมิเนียม ที่ต้องทำให้รู้สึกสะดวกและปลอดภัยเมื่ออยู่อาศัย ทั้งสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม และลูกค้าที่จะเข้ามาเลือกซื้อเพิ่ม โดยมองว่า ทั้ง 3 ธุรกิจนี้มีจุดร่วมและข้อจำกัดที่อาจเป็นความเสี่ยงที่เหมือนกันนั่นคือ การให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการที่จอดรถน้อยเกินไป ทั้งที่เป็นจุดแรกของการเข้ามาใช้บริการที่ต้องมีการสัมผัสรับบัตรจอดรถทั้งจากเครื่องอัตโนมัติหรือจากพนักงานก็ตาม อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่ต้องสัมผัสหากมีการชำระเงินค่าบริการด้วยเงินสด โดยน่าจะเป็นจุดที่สร้างความกังวลให้ผู้ใช้บริการอยู่เพราะบัตรจอดรถแบบสแกนที่รับมานั้นไม่สามารถแน่ใจได้ว่ามีการทำความสะอาดทุกใบก่อนที่จะนำมากลับมาใช้ซ้ำหรือไม่ หรือการสัมผัสที่ต้องรับบัตรจอดรถมาปั๊ม รวมทั้งการจ่ายเงินกับพนักงานเพื่อชำระค่าจอดรถ

Advertisement

นายณัฐภัทรกล่าวว่า ถึงเวลาที่ผู้ประกอบการทั้ง 3 ธุรกิจควรต้องรับมือกับนิวนอร์มอล

เหล่านี้ให้ชัดเจน ด้วยการหันมาใช้เทคโนโลยีเพื่อลดข้อจำกัดดังกล่าวนี้ไป และทำให้เกิดการลดการสัมผัสใดๆ ในขั้นตอนของการจอดรถให้ได้มากที่สุดเพื่อให้ลูกค้าได้เชื่อมั่นและสะดวกใจที่จะเดินทางมาใช้บริการ เพราะที่จอดรถถือเป็นสถานที่แห่งแรกที่มีผลต่อความรู้สึกเมื่อเดินทางเข้ามาใช้บริการ โดยทั้ง 3 สถานที่สามารถใช้ไม้กั้นที่ใช้เทคโนโลยี ALPR (Automatic license plate recognition) ที่เมื่อขับรถเข้ามาก็จะสามารถอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์ได้อย่างแม่นยำ ทำให้ไม่ต้องใช้บัตรจอดรถในการผ่านเข้าออก และไม่ต้องสัมผัสบัตรจอดรถซึ่งได้ผ่านมือคนจำนวนมาก อีกทั้งผู้ให้บริการที่จอดรถหรือเจ้าของสถานที่เองก็ยังสามารถบริหารระบบจอดรถได้อย่างครบวงจรมากขึ้นตั้งแต่การกำหนดเวลาเปิดปิด การบริหารจัดการสมาชิกที่เข้ามาใช้บริการ ฯลฯ เนื่องจากสามารถบริหารข้อมูลผ่านระบบ Cloud ที่มีการทำงานแบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังเป็นระบบที่รองรับการชำระค่าบริการบนดิจิทัลเพย์เม้นท์ผ่าน QR code ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาเพื่อให้รองรับการจัดการความปลอดภัยแบบ Single solution ด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียง และการจดจำใบหน้าผู้ใช้บริการ ทั้งหมดนี้ถือเป็นการตอบโจทย์การดำเนินชีวิตแบบปกติใหม่ที่ต้องมีการเว้นระยะทางสังคมได้เป็นอย่างดี รวมถึงทำให้เกิดการปรับตัวในกรณีที่ในอนาคตอาจเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image