‘อนันต์’แฉถูกสกัดชิง ‘หน.พลังปวงชนไทย’ ระบุเจอมติฟ้าผ่าขับออกจากพรรค

‘อนันต์’แฉถูกสกัดชิง ‘หน.พลังปวงชนไทย’ ระบุเจอมติฟ้าผ่าขับออกจากพรรค ชี้ฝ่ายตรงข้ามเล่นสกปรก เตรียมฟ้องร้อทวงความยุติธรรม

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม นายอนันต์ ฉิมบุรีรมย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย (พลท.) กล่าวว่า หลังจากที่ตนและทีมงานลงสมัครตำแหน่งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริการ(กก.บห.)พรรค ที่จะมีการประชุมใหญ่สามัญของพรรคพลท.ที่ห้องประชุมชั้น 5 เทศบาลนครนนทบุรี จ.นนทบุรี เพื่อเลือก กก.บห.พรรคชุดใหม่ ในวันที่ 18 กรกฎาคมนั้น ทางพรรคผู้บริหารชุดเก่ารู้ตั้งแต่แรกว่าจะลงสมัคร และได้มีการปิดประกาศรับสมัครอย่างชัดเจน ซึ่งตนและทีมได้เข้าสมัครตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง แต่กลางดึกของคืนวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางพรรคกลับมีมติขับตนออกจากพรรค ด้วยข้อหาผิดวินัยและจริยธรรมร้ายแรง ก่อนหน้านี้พรรคได้ตั้งกรรมการสอบตน และที่ผ่านมาได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา และได้มีการหารือกับทางประธานสอบ ทนายของพรรค และทนายของตน ซึ่งเนื่องจากเป็นข้อหาร้ายแรง จึงได้ขอเวลา 30 วัน แต่ทางกรรมการเห็นว่านานไปจึงขอลดเป็น 15 วัน ทั้งสองฝ่ายจึงนัดตัดสินกันในวันที่ 24 กรกฎาคม แต่อยู่ๆกลับมีมติแบบฟ้าผ่า ดังนั้น จะปรึกษาทนายและเตรียมฟ้องร้องต่อไป

“พอมีกรรมการคนไหนจะขอเข้าไปตรวจสอบก็จะโดนกล่าวหาว่าเป็นกบฏ เป็นปฏิปักษ์ จะล้มพรรค ไม่เชื่อมั่นพรรค คำว่ากบฏจะมาใช้กับเราคงไม่ได้ เพราะเราเพียงต้องการตรวจสอบ ต้องการความโปร่งใส หัวหน้าพรรคพยายามยื่นเรื่องให้คณะกรรมการพรรคตรวจสอบจริยธรรมผม แต่ผมยืนยันว่าผมไม่มีความผิดอะไร และที่ผ่านมาสาขาที่อยู่ต่างจังหวัดก็ไม่ได้รับการดูแล มีคนอยากเข้ามาบริจาคเงินให้พรรค แต่เมื่อเขาเห็นแบบนี้เขาก็หนีหมด จริงๆผมอยากจะลาออกจากพรรคแล้ว แต่สาขาพรรคต่างๆ สนับสนุนให้ผมลงแข่งชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค จึงตัดสินใจลงแข่งกับ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรค ซึ่งจริงๆผมและนายนิคมเป็นคู่หูคนสนิทที่เริ่มทำพรรคตั้งแต่แรกมาด้วยกัน แต่หลังๆเขาเริ่มมองผมเป็นศัตรู ผมไม่ได้ใส่ร้ายหรือดิสเครดิตอะไร ผมสู้เต็มที่แบบแฟร์ๆมาโดยตลอด แต่ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ เขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม” นายอนันต์ กล่าว

ด้านนายสุวิทย์ งอกศรี รักษาการรองหัวหน้าพรรค ผู้สมัครตำแหน่งเหรัญญิกพรรค กล่าวว่า หลายครั้งที่หัวหน้าพรรคบอกว่าเรียกร้องและอยู่ข้างประชาธปไตย แต่แบบนี้จะเรียกว่าเป็นประชาธิปไตยซ่อนรูปหรือไม่ ท่านกำหนดกติกาว่าจะต้องทำแบบนั้นแบบนี้ พวกเราก็เดินตามกติกาทุกอย่าง การทำงานทางการเมืองแค่ความตั้งใจไม่พอแต่ต้องมีความโปร่งใสด้วย ทุกวันนี้เราเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเปิดเผยการบริหารงานภายในพรรค แต่ท่านกลับพยายามหลบหลีก นี่คือจุดประกายและสาเหตุที่ทำให้พวกเราลงชิงตำแหน่งในครั้งนี้ และเป็นสิ่งที่สมาชิกหลายคนสนับสนุนให้ นายอนัตน์ ลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อสร้างมิติใหม่ของการทำงานในพรรค ถ้าเราตรวจสอบไม่ได้จะเรียกว่าประชาธิปไตยได้อย่างไร

Advertisement

นายอธิปัตย์ เม่งควน รักษาการกรรมการบริหารพรรค ผู้สมัครตำแหน่งเลขาธิการพรรค กล่าวว่า การที่จะเป็นองค์กรพรรคการเมืองเราจะต้องร่วมมือร่วมใจกัน ไม่ใช่เป็นพรรคของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือเป็นของคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของ ทุกคนต้องร่วมทำงานด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image