‘ไทยพาณิชย์’ แจงผลดำเนินการไตรมาส 2/63 กำไรสุทธิลดกว่า 24% เหตุจากตั้งเงินสำรองสูงขึ้น

‘ไทยพาณิชย์’ แจงผลดำเนินการไตรมาส 2/63 กำไรสุทธิลดกว่า 24% เหตุจากตั้งเงินสำรองสูงขึ้น

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ (เอสซีบี) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2563 มีกำไรสุทธิมูลค่า 8,360 ล้านบาท ลดลง 24% จากช่วงเดียวกันของปี 2562 สาเหตุหลักเป็นผลจากการตั้งเงินสำรองที่สูงขึ้น ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนสำหรับภาพรวมในครึ่งแรกของปี 2563 ธนาคารมีกำไรสุทธิ จำนวน 17,611 ล้านบาท ลดลง 13% จากช่วงเดียวกันของปี 2562 แต่กำไรจากการดำเนินงานยังคงเติบโต 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิมี จำนวน23,777 ล้านบาท ลดลง 7% สาเหตุหลักมาจากการหดตัวของอัตราส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ สืบเนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลายครั้งลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงการลดลงของรายได้ดอกเบี้ย หลังจากที่ธนาคารได้ขายหุ้นของบริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิตในปีที่ผ่านมา

นายอาทิตย์กล่าวว่า ด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมี จำนวน 12,499 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนส่วนใหญ่เป็นผลจากรายได้ที่สูงขึ้นของธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และธุรกิจประกัน และรายการพิเศษครั้งเดียวจากการขายเงินลงทุนและธุรกรรมของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ โดยจากมาตรการปิดเมืองในช่วงไตรมาส 2 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก และทำให้ปริมาณธุรกิจของธนาคารลดลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เดือนเมษายน แต่ขณะนี้เริ่มสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจในเดือนมิถุนายน พร้อมกับการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองเป็นลำดับแล้ว ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมี จำนวน 16,141 ล้านบาท ลดลง 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเกิดจากค่าใช้จ่ายโดยรวมลดลงระหว่างช่วงมาตรการปิดเมืองของประเทศ และการที่ธนาคารควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ของธนาคารในไตรมาส 2 ของปี 2563 ค่อนข้างคงที่ที่ 44.5%

“ภายใต้สถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนจากโควิด-19 พร้อมกับการที่ธนาคารยังดำเนินโครงการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ธนาคารจึงได้ตั้งเงินสำรอง จำนวน 9,734 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ของปี 2563 ด้านอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 ปรับลดลงอยู่ที่ 3.05% ภายใต้กฎเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการพักการจัดชั้นหนี้ด้อยคุณภาพของลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือทางการเงิน ในขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มสูงขึ้นเป็น 152% แต่เงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18%” นายอาทิตย์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image