บทนำ : นายกฯต้องตัดสินใจ

การปรับ ครม.ต้องจบในเดือนสิงหาคม เป็นสัญญาณ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่งออกมาให้สังคมรับทราบ หลังจากที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และกลุ่ม 4 กุมาร ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯ และตำแหน่งรัฐมนตรี โดยหลังจากนั้นข่าวสารเกี่ยวกับการปรับ ครม.วนเวียนอยู่ในประเด็น “คนนอก” กับคนในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีความเคลื่อนไหวนับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงหัวหน้าและเลขาธิการพรรค รวมไปถึงกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เป็นต้นมา

การปรับ ครม.ครั้งนี้มีความน่าสนใจมากเป็นพิเศษเนื่องจากตำแหน่งที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเป็นตำแหน่งทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ในขณะที่ประเทศไทยตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตทางเศรษฐกิจ ทั้งเป็นปัญหาที่สืบเนื่องมาก่อนโรคโควิด-19 ระบาด และปัญหาที่ถั่งโถมเข้ามาจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดกระแสเรียกร้อง 2 ทาง ทางหนึ่งคือต้องการเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจ และอีกทางหนึ่งคือไม่ต้องการปรับเปลี่ยน แต่เมื่อนายสมคิดและกลุ่ม 4 กุมารลาออก ทำให้เหลือหนทางเดียวคือการค้นหาทีมเศรษฐกิจทีมใหม่เข้ามาในประเด็นการคัดเลือกทีมเศรษฐกิจ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องชั่งใจระหว่างการดึง “คนนอก” มาดำรงตำแหน่ง หรือการให้ “คนในพรรคการเมือง” ดำรงตำแหน่ง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ต้องให้เกียรติ ส.ส. ขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของสถานการณ์ ส่วนบรรดานักการเมืองและพรรคการเมืองนั้นต่างให้สัมภาษณ์โดยให้เกียรตินายกรัฐมนตรี ด้วยการพร้อมใจกันบอกว่า การปรับ ครม.ให้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์

ขณะเดียวกัน พรรคการเมืองอย่างพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาล ได้มีการหารือกันเรื่องบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นรัฐมนตรีในตำแหน่งต่างๆ โดยเริ่มมีการประกาศเจตนาออกมาผ่านทางการให้สัมภาษณ์ โดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งเดิมมีกระแสข่าวว่าจะให้ “คนนอก” แต่พรรคพลังประชารัฐกลับมองว่าสมควรจะตั้งให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมกันนั้นนำเสนอรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทุกรายชื่อทุกตำแหน่งใน ครม. คนที่ต้องรับผิดชอบคือนายกรัฐมนตรี ดังนั้น แม้ว่าพรรคการเมืองจะมีความต้องการ แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบคณะผู้บริหารประเทศมองว่าไม่เหมาะสม ทุกอย่างก็สมควรจะคล้อยตามความประสงค์ของนายกรัฐมนตรี แม้รัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นรัฐบาลผสม จะมีการตกลงแบ่งสัดส่วนรัฐมนตรีกัน แต่สำหรับการเลือกตัวบุคคลที่จะมานั่งเป็นรัฐมนตรี ถือเป็นสิทธิของนายกรัฐมนตรีที่จะตัดสินใจว่าบุคคลนั้นสมควรมาร่วมคณะรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะนายกรัฐมนตรีคือผู้รับผิดชอบการเปลี่ยนแปลง โฉมหน้ารัฐบาลหลังการปรับ ครม.ที่ออกมาจะหล่อเหลา หรืออัปลักษณ์ คนที่ต้องรับผิดชอบหนีไม่พ้นนายกรัฐมนตร

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image