นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เดือนมิถุนายน 2563 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นตั้งบริษัทใหม่ 5,731 ราย เทียบกับเดือนพฤษภาคมปีนี้ เพิ่มขึ้น 37% และเดือนมิถุนายน2562 เพิ่มขึ้น 3% มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 14,757 ล้านบาท เทียบพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 53% เทียบมิถุนายนลดลง 3% โดยธุรกิจ3จัดตั้งใหม่สูงสุดได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 612 ราย คิดเป็น 11% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 271 ราย คิดเป็น 5% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้า รวมถึงคนโดยสาร 188 ราย คิดเป็น 3%
“ยอดการตั้งธุรกิจใหม่เดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น มาจากการที่ผู้ประกอบการที่ชะลอการตัดสินใจทำธุรกิจในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ตอบสนองมาตรการคลายล็อกดาวน์ และการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จึงได้ตัดสินใจตั้งธุรกิจใหม่ตามแผนที่ได้วางไว้ ส่วนใหญ่พบว่าเป็นธุรกิจขนาดเล็กมากถึง 99%”นายวุฒิไกร กล่าว
นายวุฒิไกร กล่าวว่า ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ 1,336 ราย เทียบกับพฤษภาคม2563 เพิ่มขึ้น 48% และเทียบกับมิถุนายน 2562 เพิ่มขึ้น 6% มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 5,132 ล้านบาท เทียบกับพฤษภาคม 2563 เพิ่ม 73% และเทียบกับมิถุนายน 2562 เพิ่ม 3% โดยธุรกิจที่เลิกกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 111 ราย คิดเป็น 8% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 69 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ 36 ราย คิดเป็น 3%
สำหรับยอดรวมการจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วง 6 เดือนปี 2563 มีจำนวน 33,337 ราย ลดลง 13% ทุนจดทะเบียนรวม 104,571 ล้านบาท ลดลง 13% และธุรกิจเลิกกิจการ 6,227 ราย ลดลง 7% ทุนจดทะเบียน 26,347 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%
สำหรับแนวโน้มการจดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จะดีขึ้นตามลำดับ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และมาตรการการเงิน ทั้งการลดอัตราดอกเบี้ย การเพิ่มสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ และการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผ่านสินเชื่อดอกเบี้ยถูก( Soft Loan )ขณะที่ภาคเศรษฐกิจเริ่มตอบสนองต่อมาตรการของรัฐบาล เช่น การส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ การเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
รายงานข่าวจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แจ้งว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจมีการจดตั้งธุรกิจใหม่ในเดือนมิถุนายน 2563 เพิ่มขึ้น เนื่องจากการคลายล็อกดาวน์ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขับเคลื่อน ทำให้มีความมั่นใจในการลงทุนทำธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยมีธุรกิจที่น่าจับตา คือ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้า รวมถึงคนโดยสาร ที่มีการตั้งใหม่เข้ามาเป็นอันดับที่ 3 จากปกติจะเป็นธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร เพื่อรองรับการขยายตัวของการค้าออนไลน์และบริการขนส่งสินค้าจากการซื้อขายออนไลน์
