การนัดชุมนุมของเยาวชนนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่เริ่มอีกครั้งหลังโควิด ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และขยายไปทั่วประเทศขณะนี้ ย่อมเป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่ผู้มีอำนาจบริหารประเทศจะไม่ให้ความสนใจ
จริงอยู่ความเคลื่อนไหวของนักศึกษาที่กระจัดกระจายคงไม่สามารถสร้างแรงกดดันให้ทำตามข้อเรียกร้องทั้งหลายได้ และคงไม่ทำให้รัฐบาลต้องสะดุ้งสะเทือนอะไร เนื่องจากกลไกการควบคุมประเทศที่ผู้มีอำนาจชัดนี้ออกแบบจะจัดสร้างไว้แข็งแกร่งเกินกว่าพลังที่กระจัดกระจายเช่นนี้จะทำให้ไหวคลอนได้
แต่ถึงจะมั่นใจมากมายแค่ไหนก็ตามว่า โครงสร้างอำนาจที่ดีไซน์และสถาปนาขึ้นมาไว้แล้วนี้มีความแข็งแกร่งระดับปิดโอกาสที่จะพ่ายแพ้ในทุกสถานการณ์ก็ตาม
เสียงของประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นลูก รุ่นหลานเหล่านี้ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสนใจ
ผู้บริหารประเทศในปัจจุบันอาจจะประสบความสำเร็จอย่างสูงยิ่งในการบริหารอำนาจ สามารถทำให้กลไกอำนาจทุกส่วนประสานรับไปในทางเดียวกันได้อย่างเป็นเอกภาพ
ไม่ว่าผู้มีอำนาจต้องการให้เรื่องใดมีผลออกมาแบบไหน สามารถขับเคลื่อนกลไกให้เกิดผลได้ตามต้องการได้ทุกครั้งอย่างเด็ดขาด
เป็นการบริหารอำนาจที่ประสบความสำเร็จสูงยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ความมั่นคงของอำนาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเมืองอย่างเดียว
ยังมีมิติด้านเศรษฐกิจและสังคมเป็นเงื่อนไขปัจจัยที่ส่งผลต่อความเป็นไปของกันและกันอยู่
และเรื่องราวในมิติเศรษฐกิจและสังคมนี่เอง ที่ท้าทายอย่างยิ่งว่า “อำนาจเด็ดขาดทางการเมือง” จะเข้าไปควบคุมให้เป็นไปตามต้องการเหมือนกับความเป็นไปทางการเมืองหรือไม่
เป็นปกติ คนหนุ่ม คนสาวนั้นมี “ความฝัน” เป็นตัวขับเคลื่อนชีวิต
โลกที่เชื่อมประชากรทุกประเทศถึงกันด้วยเทคโนโลยีการสื่อสาร เด็กรุ่นใหม่รับรู้ชีวิตที่ดีกว่าจากเพื่อนร่วมโลกได้แบบเรียลไทม์
คนรุ่นเก่า หรือแก่แล้ว อาจจะมองวิถีชีวิตของโลกใหม่แล้วรู้สึกเฉยๆ ด้วยประเมินแล้วยอมรับความเป็นจริงได้
แต่คนหนุ่ม คนสาว ต้องฝันที่จะไปถึง ไม่ว่าการมีเทคโนโลยีที่ดีกว่าใช้ ความสะดวกสบาย หรือมิตรภาพที่กว้างขวาง การเข้าถึงความรู้ และการพัฒนาความสามารถที่ดีขึ้น
ชีวิตของพวกเขาขับเคลื่อนด้วยความหวังในชีวิตที่ดีกว่าในมุมที่เพื่อนรวมโลกแสดงให้เห็นว่ามีอยู่จริง ผ่านการสื่อสารของโลกออนไลน์
ระบบเศรษฐกิจอันหมายถึงหนทางการทำมาหากินที่ดีกว่า ระบบสังคมอันหมายถึงชีวิตที่เปี่ยมด้วยอิสระเสรี ไม่ถูกจำกัดด้วยกรอบของความเชื่อแบบเก่าๆ
เรื่องราวเหล่านี้กระตุ้นให้เด็กๆ ปรารถนาที่จะให้เกิดขึ้นกับอนาคตของพวกเขา ในระดับที่คนเฒ่า คนแก่ไม่มีทางที่จะเข้าใจได้
และนี่เองจึงเป็นเรื่องที่ไม่ว่าผู้มีอำนาจในปัจจุบันจะเชื่อมั่นในกลไกอำนาจที่ดีไซน์ และสร้างไว้มากเพียงใดก็ตามจำเป็นจะต้องสนใจคนรุ่นใหม่
อย่างน้อยที่สุดต้องมีท่าทีที่แสดงให้เห็นว่า “พร้อมจะรับฟัง”
ท่าทีปฏิเสธด้วยการมองว่าการแสดงออกของคนหนุ่ม คนสาว เป็นความเลวร้ายต้องกำจัด หรือควบคุมให้อยู่ในกรอบอำนาจที่วางไว้อันสะท้อนถึงการไม่รับฟังนั้นน่าจะไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง
ใช่อยู่ ความเคลื่อนไหวของเด็กๆ ถึงอย่างไรก็สร้างความกระทบกระเทือนให้กับโครงสร้างอำนาจที่ดีไซน์และสร้างไว้อย่างแข็งแกร่งไม่ได้
จนเชื่อมั่นว่า ไม่มีทางที่จะต้องยอมจำนนกับข้อเสนอของเด็กอย่างนี้
ใช่อยู่ที่สถานการณ์จะเป็นเช่นนั้น
ไม่ต้องรับฟังก็ได้
หากคนเฒ่า คนแก่ที่เชื่อมั่นในอำนาจเหล่านี้ สามารถมีสุขภาพที่ดีตลอดไป และมีชีวิตอยู่ค้ำฟ้า