‘จุรินทร์’ จี้ทูตพาณิชย์ปั้มส่งออก หันกระตุ้นขายผ่านเอเย่นต์ในไทย ทดแทนโควิดกระทบจัดแฟร์

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงตัวเลขส่งออกเดือนมิถุนายน 2563 มีมูลค่า 16,444.29 ล้านเหรียญสหรัฐ และติดลบ 23.17% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน หรืออัตราขยายตัวต่ำสุดรอบ 131 เดือนนับจากเดือนกรกฎาคม 2552 และสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ปรับเพิ่มคาดการณ์ส่งออกทั้งปี 2563 ติดลบ 8-9% ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ระบุได้ว่าตัวเลขการส่งออกรายเดือนจากนี้จะเป็นอย่างไร ได้ชัดเจนนัก เพราะตัวแปรสำคัญคือการระบาดของโควิด-19 เป็นเรื่องอ่อนไหวต่อการตัดสินใจว่าจะจัดงานแสดงสินค้าหรือเดินทางเจรจาการค้าอย่างปกติ

นายสมเด็จกล่าวว่า เรื่องนี้ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ทั่วโลก ให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมออนไลน์และจำหน่ายสินค้าบนอีคอมเมิร์ซ โดยให้เจาะลึกถึงความต้องการสินค้าและนำเสนอสินค้าไทยที่แตกต่างจากเดิมและเห็นถึงโอกาสสินค้านั้น เพราะนิวนอร์มอลทำให้พฤติกรรมเปลี่ยน ความต้องการเปลี่ยน ผู้ผลิตสินค้าและส่งออกก็ต้องปรับตัวเช่นกัน โดยให้ทูตพาณิชย์แต่ละประเทศทำแผนงานการแมชชิ่งและศักยภาพของสินค้า รวมถึงรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่อาจก่อปัญหาต่างจนเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกและจะได้แก้ไขได้ทันที

“ต้องยอมรับความจริงว่าการส่งออกยังได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 มีผลต่อกำลังซื้อ ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่าย และเศรษฐกิจทั่วโลกยังไม่ฟื้นตัว ที่สำคัญการระบาดของโควิด-19 ยังไม่คลี่คลายในหลายประเทศ ทำให้ทั่วโลกวิตกต่อการเดินทางเพื่อเจรจาการค้าและร่วมงานแสดงสินค้าหรือเยี่ยมชมการผลิตหรือดูผลิตภัณฑ์เหมือนภาวะปกติทำได้ยากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม กรมฯยังคงเดินหน้าในเรื่องการจัดกิจกรรมผ่านระบบประชุมทางไกล เจรจาทางธุรกิจและเจรจาซื้อขายทางระบบออนไลน์” นายสมเด็จกล่าว

นายสมเด็จกล่าวว่า ในส่วนการจัดงานแสดงสินค้าก็ปรับวิธีการนำเสนอที่ทำควบคู่ทั้งการจัดออฟไลน์หรือจัดบูธ ซึ่งแม้ยังไม่เปิดให้ต่างชาติเดินทางเข้าไทยหรือแทรเวลบับเบิลยังไม่ดำเนินการ ก็จะมีนักธุรกิจต่างชาติหรือบริษัทที่ตัวแทนนำเข้าและส่งออกสินค้าไทยไปทั่วโลก (เอเย่นต์) หรือบริษัทต่างชาติที่เปิดสาขาในไทยเพื่อคัดเลือกสินค้าไปจำหน่ายในประเทศของตนหรือประเทศใกล้เคียงอยู่จำนวนมากกว่า 1 หมื่นราย เหล่านี้ก็จะยังเจรจาและเดินทางร่วมดูสินค้าที่ไทยจัดต่อเนื่อง แต่อาจใช้การจัดพื้นที่ขนาดเล็กลงเพียง 5-6 กลุ่มสินค้าต่อครั้ง ให้สอดคล้องกับมาตรการเว้นระยะห่างของภาครัฐ ซึ่งเป็นการทำควบคู่กับการจัดงานแสดงสินค้าทางออนไลน์สำหรับผู้นำเข้าในต่างประเทศโดยตรง

Advertisement

โดยที่ผ่านมาก็สามารถเจรจาขายสินค้าอาหาร สินค้าที่สอดรับกับวิถีนิวนอร์มอล เช่น อาหารสำเร็จรูป เกษตรแปรรูป อาหารเลี้ยงสัตว์ เครื่องมือทางการแพทย์ ถุงมือยางเพื่อการแพทย์ เฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้าน และอื่นๆที่ใช้สำหรับการพักอาศัยมากขึ้น หลังจากหลายประเทศใช้การล็อกดาวน์หยุดการเดินทางและทำงานที่บ้านมากขึ้น ขณะที่หลายตลาดก็ยังต้องการสินค้าไทยสูงต่อเนื่อง แม้ในช่วงโควิด-19 ระบาดก็ยังนำเข้าได้สูง อย่างสหรัฐ และจีน พบว่าการส่งออกขยายตัวเป็นบวก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image