สมาคมทีวีดิจิทัลฯ รวมพลังปกป้อง ‘เรียงช่อง’ หวั่นปรับกฎเอื้อทีวีดาวเทียม-เคเบิลทีวี ทำคนดูวุ่น

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม นายสุภาพ คลี่ขจาย นายกสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งว่าประกาศเรื่องการเรียงช่อง ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อปี 2558 ที่ให้โครงข่ายการรับชมทีวีนอกเหนือจากทีวีดิจิทัลภาคพื้นดิน ไม่ว่าจะเป็นทีวีดาวเทียมหรือเคเบิลทีวีต้องนำช่องดิจิทัลทีวีที่ผ่านการประมูลมูลค่ารวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท ไปไว้ในโครงข่ายของตนและเรียงหมายเลขช่องตามผลการประมูลของ กสทช. เป็นประกาศที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลให้โครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ไม่จำเป็นต้องเรียงหมายเลขช่องตามประกาศ กสทช.เดิม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีขั้นอุทธรณ์ หากผลการพิจารณาคดีเป็นไปตามชั้นต้น จะเกิดความโกลาหลความสับสนกับผู้ชมทีวีในการหาช่องรายการอีกครั้งแน่นอน

นายสุภาพกล่าวว่า กสทช.เตรียมรับมือด้วยการจ่อออกประกาศเรียงช่องฉบับใหม่ บนหลักการประนีประนอมเพื่อให้อุตสาหกรรมเดินต่อไปได้ โดยเสนอให้โครงข่ายทั้งทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี สามารถจัดเรียงช่อง 1-10 ได้เอง แทนที่ทีวีดิจิทัลช่องสาธารณะที่ขยับไปอยู่ช่อง 11-15 ส่วนช่องทีวีดิจิทัลภาคธุรกิจตั้งแต่หมายเลข 16-36 ยังอยู่ในหมายเลขเดิม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลการเจรจาระหว่างผู้ประกอบการช่องทีวีดิจิทัล และผู้ประกอบการโครงข่ายจะหาจุดลงตัวได้หรือไม่ ไม่เช่นนั้นก็จะมีคดีฟ้องร้องคดีใหม่เกิดขึ้นไม่สิ้นสุด

นายสุภาพกล่าวว่า จากการประชุมสามัญสมาคมเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมาชิกช่องทีวีดิทัลทุกช่องมีมติถึงแนวทางการแก้ปัญหา พร้อมสนับสนุนแนวทางประกาศ “เรียงช่อง” ฉบับใหม่ของ กสทช.ภายใต้เงื่อนไขที่ชอบธรรมต่อช่องทีวีดิจิทัลที่เสียเงินประมูลใบอนุญาตมาอย่างถูกต้อง โปร่งใส และสิทธิในการเลือกหมายเลขช่อง คือตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจทุ่มประมูลของผู้ประกอบการ

“หัวใจสำคัญของการตัดสินใจประมูลใบอนุญาตในปลายปี 2556 คือการได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสื่อหลักของชาติ ที่ กสทช.ให้สัญญาว่าแม้ว่าในระยะแรกโครงข่ายของทีวีดิจิทัลภาคพื้นดินจะยังส่งสัญญาณไม่ครอบคลุม จนถึงปัจจุบันผู้ชมก็ยังชมช่องทีวีผ่านทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีกว่า70% แต่ด้วยประกาศ must carry ที่บังคับใช้ตั้งแต่ปี 2555 ก่อนการเปิดประมูลให้โครงข่ายทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวีนำช่องทีวีดิจิตอลไปเผยแพร่ ทำให้ผู้ชมสามารถชมช่องดิจิทัลทีวีได้ทั่วประเทศ แม้ช่วงแรกจะมีปัญหาเรื่องหมายเลขช่องที่มีการเขย่งจากเลขที่ประมูลได้ไป 10 หมายเลข ก็ถูกแก้ไขด้วยประกาศเรียงช่อง ปี 2558 ที่ทำให้การเรียงช่องเป็นไปตามเงื่อนไขการประมูล ที่ง่ายต่อการสื่อสาร และผู้ชมก็จดจำได้และคุ้นเคย ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งก็จะเกิดความวุ่นวายส่งผลต่อคนดูและอุตสาหกรรมทีวีไทยครั้งใหญ่แน่นอน” นายสุภาพกล่าว

Advertisement

นายสุภาพกล่าวว่า การที่ กสทช.เสนอแนวทางประกาศ เรียงช่องฉบับใหม่ ให้โครงข่ายดาวเทียม, เคเบิลทีวี สามารถเรียงช่อง 1-10 เอง แม้ไม่ถูกต้องในหลักสากลและเงื่อนไขการการประมูล แต่น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในสถานการณ์นี้ เพื่อให้อุตสาหกรรมเดินต่อไปได้ พึ่งพาอาศัยกันโดยไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงกับหมายเลขช่องในปัจจุบัน มติสมาชิกก็พร้อมสนับสนุนแนวทางนี้ เพียงแต่ต้องกำหนดกติการ่วมกันไม่ทำให้เกิดปัญหาเดิม เช่น ต้องเป็นช่องบอกรับสมาชิก, ต้องไม่มีช่องทีวีดิจิทัลมาออกอากาศซ้ำ และประเภทช่องรายการใน 1-10 ก็ต้องไม่เป็นคู่แข่งหรือซ้ำแนวทางกับช่องทีวีดิจิทัลที่ออกอากาศในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นช่องข่าว, หนัง, วาไรตี้

“วันที่ 4 สิงหาคมนี้ กสทช.จะจัดประชุมรับฟังความเห็น (focus group) กลุ่มผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลและโครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีครั้งที่สอง ซึ่งเจ้าของกิจการ ผู้บริหารระดับสูงของทีวีทุกช่องล้วนตอบรับที่จะไปแสดงพลังและจุดยืนในการปกป้องสื่อหลักของชาติที่ผ่านการประมูลมาอย่างถูกต้อง จะร่วมเสนอความเห็นและหาทางออกร่วมกันโดยยึดประโยชน์สาธารณะของชาติและผู้ชมเป็นสำคัญ” นายสุภาพกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image