เร่งปั๊ม ‘ท่องเที่ยว’ ช่วยปลุกเศรษฐกิจไทย มติชนระดมไอเดีย

เร่งปั๊ม ‘ท่องเที่ยว’ ช่วยปลุกเศรษฐกิจไทย มติชนระดมไอเดีย

ผลจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ก่อให้เกิดวิกฤตต่อเศรษฐกิจไทยในภาคส่วนต่างๆ อย่างมากมายมหาศาล โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว ได้รับผลกระทบหนักหนาสาหัสกว่าใครเพื่อน

ทั้งนี้ รายได้จากการท่องเที่ยวไทยคิดเป็นสัดส่วน 12% ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และส่วนใหญ่จะมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มีมากถึง 1.9 ล้านล้านบาท

แต่ขณะนี้แทบทั่วโลกยังประสบการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีการล็อกดาวน์ประเทศ สายการบินต่างๆ หยุดทำการ ขณะเดียวกันประเทศไทยก็ยังไม่อาจเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้อย่างปกติ ยังต้องคัดกรองและมีมาตรการป้องกันเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มข้น

เมื่อรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่อาจเข้ามาจุนเจือเศรษฐกิจไทยได้เหมือนเดิม จึงจำเป็นต้องที่จะต้องกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ แม้จะไม่แรงเหมือนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ก็พอจะกระตุ้นให้ธุรกิจท่องเที่ยวและชุมชนในท้องถิ่นให้อยู่ได้ ในภาวะวิกฤตเช่นนี้

ADVERTISMENT

ดังนั้นการกระตุ้นคนไทยให้ท่องเที่ยวภายในประเทศ จึงเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญของรัฐบาล ที่ต้องการจะฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

แต่จะทำอย่างไรเพื่อกระตุ้นให้คนไทยเที่ยวไทยกันมากขึ้น หนังสือพิมพ์มติชนŽ จึงจัดเวทีระดมความคิดเห็นในงานสัมมนาหัวข้อ ปลุกไทย เที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจไทย ให้เดินหน้าŽ ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ เวลา 08.30-12.00 น. ที่ห้องอินฟินิตี้ 1-2 โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ซอยรางน้ำ กทม. โดยมี พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษ เพื่อให้การท่องเที่ยวกลับมาพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้อีกครั้ง

ADVERTISMENT

ภายในงานยังจัดเสวนาเรื่อง ไทยพร้อมแล้วกับการท่องเที่ยววิถีใหม่Ž โดยมีวิทยากรเข้าร่วม ได้แก่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย นายสุรวัช อัครวรมาศ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และอุปนายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) และตัวแทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยมี พิภู พุ่มแก้วกล้า พิธีกรรายการและผู้ประกาศข่าวเป็นผู้ดำเนินรายการ

พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ทั้งนี้ มติชนŽ เปิดให้ผู้สนใจเข้าฟังการสัมมนา ลงทะเบียนเข้าร่วมรับฟังผ่านคิวอาร์โค้ด (QR Code) ทางเว็บไซต์มติชน www.matichon.co.th หรือในหนังสือพิมพ์ในเครือมติชนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด แต่ต้องรีบลงทะเบียน เพราะรับจำนวนจำกัด ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19

สำหรับงานสัมมนา ปลุกไทย เที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจไทย ให้เดินหน้าŽ ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในงานสัมมนาที่หนังสือพิมพ์มติชนจัดขึ้น โดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อระดมความเห็น เผยแพร่นโยบายภาครัฐ สู่เอกชนและประชาชน หาคำตอบที่เป็นทางออกของประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ เมื่อต้นปี มติชนŽ ได้จัดเสวนาเรื่อง 2020 ปีแห่งการลงทุน ทางออกประเทศไทยŽ เมื่อวันที่ 18 มกราคม จากนั้นเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้จัดงาน ลงทุน 2020 ฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างชาติ สร้างงานŽ โดยเน้นที่แผนการลงทุนของกระทรวงคมนาคม ที่มีผลต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ฟื้นฟูความเสียหายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

การสัมมนาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ เกิดขึ้นในสภาพวิกฤตของธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งเดิมเป็นรายได้สำคัญของชุมชนและประเทศ แต่เมื่อทั่วโลกประสบปัญหาโรคระบาดโควิด-19 การเดินทางระหว่างประเทศ หยุดชะงัก กระทบถึงรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งมีประชาชนวงกว้างเกี่ยวข้องอยู่

กระทั่งประเทศไทยควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้เป็นที่น่าพอใจ เพราะประชาชนร่วมมือรักษามาตรการทางสาธารณสุข สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ วัดอุณหภูมิร่างกาย เว้นระยะห่าง และอื่นๆ ทำให้ทุกคนสามารถเดินทางภายในประเทศได้

การท่องเที่ยวภายในประเทศ จึงเป็นความหวังทางเศรษฐกิจทั้งของชุมชนและของประเทศ ในระหว่างที่รอให้สถานการณ์เข้าที่ในการเดินทางระหว่างประเทศ สามารถดำเนินการได้ด้วยความปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด

มติชนŽ จึงจัดสัมมนาเพื่อให้ภาครัฐและภาคเอกชน สร้างความมั่นใจว่าการท่องเที่ยววิถีใหม่ ภายในประเทศมีความปลอดภัยจากโรคระบาด เพื่อให้ประชาชนกล้าเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศที่สำคัญ

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยถึงมาตรการต่างๆ ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวว่า ในส่วนของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ข้อมูล เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม มีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ 4.56 ล้านคน ลงทะเบียนสำเร็จ 4.30 ล้านคน อยู่ระหว่างทยอยแจ้งผลผ่านทางข้อความเอสเอ็มเอส เบื้องต้นมีผู้ใช้สิทธิจองโรงแรมที่พักแล้ว 2 แสนกว่าห้อง และมีผู้ชำระเงินและเดินทางไปเช็กอิน เพื่อใช้บริการโรงแรมแล้ว 21,369 ห้อง และเช็กเอาต์แล้ว 6,273 ห้อง

บรรยากาศการท่องเที่ยวของตลาดไทยเที่ยวไทยเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น โดยสถานการณ์ท่องเที่ยวช่วงหยุดยาว 4 วัน ระหว่างวันที่ 25-28 กรกฎาคม ประเมินไว้ว่ามีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศ ประมาณ 1.89 ล้านคนต่อครั้ง มีการใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียนมากกว่า 6.8 พันล้านบาท และคาดว่ามีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 24%

สำหรับรูปแบบการเดินทาง จะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวในระยะทางใกล้ๆ เที่ยวในจังหวัดรอบข้าง เดินทางกันเป็นกลุ่มเล็กๆ แบบกลุ่มครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อน และเน้นการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย และสุขอนามัยเป็นหลัก

ส่วนการเดินทางในกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ บขส.คาดว่าจะมีปริมาณไม่มากเท่ากับช่วงวันหยุดยางช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีจำนวนผู้โดยสารจองตั๋วล่วงหน้าทั่วประเทศในช่วงวันหยุดยาวประมาณ 5-10% และพบว่าแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทั้งทะเล ภูเขา และน้ำตกยังเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ที่คนไทยอยากออกไปสัมผัสในช่วงวันหยุดพักผ่อน

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

ผู้ว่าการ ททท.เสริมอีกว่า การกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้เกิดการเดินทางในช่วงวันหยุดยาวครั้งนี้ มีหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งการหยุดยาวต่อเนื่อง 4 วัน มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ ทั้งแพคเกจเราเที่ยวด้วยกัน และแพคเกจกำลังใจ ที่ออกมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงกระตุ้นประชาชนให้เกิดการเดินทาง และใช้จ่ายในสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง ถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และจูงใจให้ออกเดินทางมากขึ้นด้วย

มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 1 เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ดังนั้นจึงขอเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ในการประเมินผลตอบรับ รวมทั้งแก้ไขปัญหาต่างๆ ก่อนว่าจะดำเนินการระยะที่ 2 หรือไม่ เช่น ผู้ประกอบการที่พักมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นจากเดิมเท่ากับราคาปกติ และหารือกับธนาคารกรุงไทย เพื่อวางระบบ เป็นต้น ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณา

คิดว่ามีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเฟส 2 แน่นอน เพราะท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้พูดไว้แล้ว รวมทั้งการสนับสนุนงบประมาณต่อห้อง ในแพคเกจเราเที่ยวด้วยกันที่รัฐบาลให้ห้องละไม่เกิน 3,000 บาท แต่ตอนนี้ที่เช็กดูค่าห้องอยู่ที่ 1,000-2,000 บาท ซึ่งไม่เต็มวงเงินที่รัฐบาลสนับสนุน ดังนั้นน่าจะมีเงินเหลือ เพื่อนำไปใช้ในมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเฟสต่อไปเพิ่มเติม อาทิ การสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรองและท่องเที่ยววันธรรมดาŽ ผู้ว่าการ ททท.สรุป

ดังนั้น งานสัมมนา ปลุกไทย เที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจไทย ให้เดินหน้าŽ และวงเสวนา ไทยพร้อมแล้วกับการท่องเที่ยววิถีใหม่Ž ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ จะเป็นเวทีระดมความคิดเห็น เพื่อช่วยกันผลักดัน กระตุ้นการท่องเที่ยวไทยได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด ที่จะช่วยธุรกิจต่างๆ ที่ผูกโยงกับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยในภาพรวมพลิกฟื้นขึ้นมาได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image